อาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก รายได้ลด สะดุดโควิดระบาด เพิ่มลงทุนมาร์เกตเพลส เปาไช่ไช่ และแอป เถาเป่า โดยขาดทุนสุทธิ 18,357 ล้านหยวน ผู้บริหารปลื้มมีผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านคนต่อปีในในไตรมาสแรกที่ผ่านมา และสถิติยอดขายออนไลน์ทั่วโลกสามารถทำยอดได้ถึง 8,317 พันล้านหยวนในปีงบประมาณ เผยมุ่งมั่นเพิ่มรายได้ที่ยั่งยืน-คุณภาพสูง และปรับโครงสร้างต้นทุนดำเนินงานให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในช่วงโลกที่มีความไม่แน่นอน
อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (ตลาด NYSE: หุ้น BABA และตลาด HKEX: หุ้น 9988, “อาลีบาบา” หรือ “อาลีบาบา กรุ๊ป”) ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับสำหรับปีงบประมาณ 2565 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา รายได้ 204,052 ล้านหยวน (32,188 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้แรงหนุนหลักจากการเติบโตของรายได้จากการค้าในจีน 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็นมูลค่า 140,330 ล้านหยวน ( 22,137 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนบริการผู้บริโภคในพื้นที่เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็นมูลค่า 10,445 ล้านหยวน (1,647 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และส่วนของคลาวด์เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็นมูลค่า 18,971 ล้านหยวน (2,993 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ผู้บริโภครายปีทั่วโลกมีจำนวนถึงประมาณ 1.31 พันล้านคนในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 เพิ่มขึ้น 28.3 ล้านคนจากช่วง 12 เดือนที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยนับรวมผู้บริโภคกว่า 1 พันล้านคนในจีน ซึ่งถือว่าทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ และผู้บริโภคในต่างประเทศ 305 ล้านคน แสดงถึงการเพิ่มขึ้นสุทธิรายไตรมาสกว่า 24.6 ล้านคนและ 3.7 ล้านคนตามลำดับ และเพิ่มขึ้นสุทธิรายปี 113 ล้านคนและ 64 ล้านคนตามลำดับ
กำไรขาดทุนสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญ อยู่ที่ 16,241 ล้านหยวน (2,562 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 18,357 ล้านหยวน (2,896 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นผลอันเนื่องมาจากการลดลงของราคาตลาดของเงินลงทุนในบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่รวมอยู่ในมาตรฐาน non-GAAP ของเรา โดยถูกหักบางส่วนด้วยรายได้จากการดำเนินงาน ดังนั้น รายได้สุทธิแบบ non-GAAP จึงอยู่ที่ 19,799 ล้านหยวน (3,123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 24% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ขาดทุนปรับลดต่อ ADS อยู่ที่ 6.07 หยวน (0.96 ดอลลาร์สหรัฐ) และ ขาดทุนต่อหุ้นปรับลด อยู่ที่ 0.76 หยวน (0.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.9 ดอลลาร์ฮ่องกง) รายได้ปรับลดแบบ Non-GAAP ต่อ ADS อยู่ที่ 7.95 หยวน (1.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 23 % เมื่อเทียบเป็นรายปี และ กำไรต่อหุ้นปรับลดแบบ Non-GAAP อยู่ที่ 0.99 หยวน (0.16 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 1.22 ดอลลาร์ฮ่องกง) ลดลง 23% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่16,717 ล้านหยวน (2,637 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับผลประกอบการที่ขาดทุนจากการดำเนินงาน 7,663 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 (ซึ่งไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวและรายการอื่น ๆ บางรายการตามที่ระบุไว้ในผลประกอบการด้านการดำเนินงานและการเงินของไตรมาสเดือนมีนาคม) สำหรับรายได้จากการดำเนินงานจะลดลง 6,894 ล้านหยวนเมื่อเทียบปีต่อปี สาเหตุหลักมาจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นใน เถาไช่ไช่ และ เถาเป่า รวมไปถึงผลกระทบอย่างต่อเนื่องจาก COVID-19 การด้อยค่าของสินทรัพย์ (Asset Impairment) และการที่ Sun Art ช่วยเหลือแจกจ่ายเสบียงให้แก่ชาวจีน ดังนั้น กำไรก่อนการปรับปรุง (Adjusted EBITA) ซึ่งเป็นการวัดแบบ non-GAAP จึงลดลง 30% หรือ 6,801 ล้านหยวนเมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 15,811 ล้านหยวน (2,494 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เงินสดสุทธิที่ใช้ในการดำเนินงาน คิดเป็นมูลค่า 7,040 ล้านหยวน (1,111 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) กระแสเงินสดอิสระ ซึ่งเป็นการวัดสภาพคล่องแบบ non-GAAP มีการไหลออก 15,070 ล้านหยวน (2,377 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เทียบกับการไหลออก 658 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปี 2564 สาเหตุหลักมาจากการชำระเงินงวดสุดท้ายจำนวน 9,114 ล้านหยวน (1,438 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากค่าปรับ 18,228 ล้านหยวน ซึ่งเรียกเก็บโดยหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีนตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน ( “ค่าปรับต่อต้านการผูกขาด”) และกำไรที่ลดลง
แดเนียล จาง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบากรุ๊ปกล่าวประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบากรุ๊ปกล่าวว่า อาลีบาบา บรรลุเป้าหมายในการให้บริการผู้ใช้งานต่อปีจำนวนกว่าหนึ่งพันล้านคนในประเทศจีนในไตรมาสที่ผ่านมา และสถิติยอดขายออนไลน์ทั่วโลกก็สามารถทำยอดได้ถึง 8,317 พันล้านหยวนในปีงบประมาณ แม้จะมีความท้าทายในระดับมหภาคที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อาลีบาบายังคงให้ความสำคัญกับการนำเสนอคุณค่าของลูกค้าและสร้างประสิทธิภาพในการส่งมอบคุณค่าเหล่านั้น อาลีบาบามองเห็นความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในธุรกิจต่าง ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับปรุงพัฒนาการปฏิบัติงานในสิ่งที่เป็นกลยุทธ์หลัก
"เราจะยังคงดำเนินการตามกลยุทธ์การพัฒนาแบบพร้อมกันหลายช่องทางต่อไป โดยการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของเรา และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างมูลค่าระยะยาวให้แก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ในอีโคซิสเท็มของเรา”แดเนียล จาง กล่าว
โทบี้ ซู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอาลีบาบากรุ๊ป กล่าวว่า อาลีบาบา มีผลประกอบการในไตรมาสแรก(สิ้นสุด 31 มีนาคม 2565)จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยรายได้รวมสำหรับปีงบประมาณเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปีเช่นกัน แม้จะมีสภาพแวดล้อมโดยรอบแบบภาพใหญ่จะมีความท้าทายมากก็ตาม นอกจากนี้ การลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการด้านกลยุทธ์ได้สร้างแรงผลักดันในการพัฒนา และประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้น
"เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มรายได้ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพสูง และจะปรับโครงสร้างต้นทุนการดำเนินงานของเราให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลตอบแทนโดยรวมท่ามกลางช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเหล่านี้" โทบี้ ซู กล่าว