FINNOMENA FUNDS เปิดให้ซื้อ Thai ESG ได้แล้วทุกกองทุนในไทย พร้อมจัดโพยกองทุนแนะนำ ตอบโจทย์เป้าหมายวางแผนภาษี

FINNOMENA FUNDS (ฟินโนมีนา ฟันด์) มอบของขวัญปลายปีแก่สายลดหย่อนภาษีเปิดให้ซื้อกองทุน Thai ESG รวมทั้งหมด 30 กองทุน จาก 16 บลจ. ในประเทศไทยพร้อมจัดโพยกองทุนลดหย่อนภาษี คัดสรรโดย FINNOMENA FUNDS Investment Team กองทุนไหนดี กองทุนไหนเด็ด คัดมาให้นักลงทุนเลือกเน้น ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย

เทศกาลลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 2566 นี้ ถือว่าพิเศษกว่าปีไหน ๆ เพราะนอกจากจะมีกองทุน SSF และ RMF ให้เลือกซื้อแล้ว ปีนี้นักลงทุนไทยยังมีโอกาสลงทุนกับกองทุนลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่ “Thai ESG หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน” ซึ่งให้สิทธินำเงินไปหักลดหย่อนเพิ่มเติมถึง 100,000 บาท และพิเศษกว่านั้นคือทุกกองทุน Thai ESG ในประเทศไทย จะสามารถซื้อได้ครบผ่านแอปพลิเคชันFINNOMENA ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายกองทุนของประเทศไทย 

นายกสิณ สุธรรมมนัส Chief Strategy Officer - FINNOMENA Group กล่าวว่า “Thai ESG ทุกกองทุนในไทย ซื้อได้แล้ววันนี้ที่แอปพลิเคชัน FINNOMENA ซึ่งปีนี้เราได้รวบรวมทั้งหมด 30 กองทุน จาก 16 บลจ. มาให้นักลงทุนพิจารณาลงทุนตามความชอบพร้อมกันนี้ยังได้คัดสรรโพยกองทุน Thai ESG ด้วยคำแนะนำที่เป็นกลาง และวิเคราะห์อย่างเข้มข้นโดยทีมงานการลงทุนที่มากความสามารถและประสบการณ์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกลงทุนได้ง่ายขึ้น ตามเป้าหมายและความเสี่ยงที่เหมาะสม”

ทั้งนี้ FINNOMENA FUNDS Investment Team ได้คัดเลือกกองทุนแนะนำ Thai ESG ในแต่ละกลุ่มสินทรัพย์การลงทุนมาให้เลือก ดังนี้ 

กองทุนหุ้น Active แนะนำ KTAG-ThaiESG บลจ. กรุงไทย: เน้นลงทุนหุ้นใน SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป กองทุนหุ้น Passive แนะนำ K-TNZ-ThaiESG บลจ. กริกรไทย: เน้นลงทุนหุ้น ESG ในดัชนี SET100 ที่มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Target Net Zero) กองทุนผสม แนะนำ KTAG 70/30-ThaiESG บลจ. กรุงไทย: เน้นลงทุนหุ้นในSET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป 70% และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน สัดส่วนไม่เกิน30% กองทุนตราสารหนี้ แนะนำ KKP GB THAI ESG บลจ. เกียรตินาคินภัทร: เน้นลงทุนตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ได้แก่ Green bond, Sustainability bond และ  Sustainability-linked bond

สำหรับ Thai ESG เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยกำหนดระยะเวลาการลงทุนอย่างน้อย 8 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ ลงทุนปีไหน ลดหย่อนปีนั้น ไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ และไม่บังคับต้องซื้อต่อทุกปี โดยนโยบายการลงทุนจะมุ่งเน้นลงทุนหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทยที่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG ทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ​และบรรษัทภิบาล เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีเป้าหมายลงทุนลดหย่อนภาษี และต้องการสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว