‘บ้านปู’ เคาะผลตอบแทนหุ้นกู้ 5 รุ่น ระหว่าง 3.10 - 4.21% ต่อปี เรทติ้ง A+ เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 7 – 9 พฤษภาคม 2567 ผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติกำหนดผลตอบแทนหุ้นกู้ที่จะออกและเสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 5 รุ่นประกอบด้วย รุ่นอายุ 2 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.10% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี 9 เดือนอัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.76% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปีอัตราดอกเบี้ย 4.08% ต่อปี และรุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.21% ต่อปี จองซื้อขั้นต่ำ100,000 บาท และทวีคูณทุกๆ 100,000 บาท เสนอขายระหว่างวันที่ 7 – 9 พฤษภาคม2567 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย ธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หุ้นกู้ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตลอดจนการมีกระแสเงินสดที่มั่นคงจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าและการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นภายใต้กลยุทธ์ “Greener & Smarter
“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากการออกหุ้นกู้ทุกชุดมาโดยตลอด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนด้วยดีเสมอมา ในครั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้ทั้ง 5รุ่น เมื่อพิจารณาร่วมกับอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ระดับ A+ จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ของกิจการที่มีความมั่นคง และต้องการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้” นายสินนท์กล่าวเสริม
แม้ว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา ทั่วโลกจะประสบกับความผันผวนของตลาดพลังงาน อย่างไรก็ดี บ้านปูยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องจากความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การบริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุม พร้อมคงความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับตลาดพลังงานที่มีความเปลี่ยนแปลงได้อย่างคล่องตัว ส่งผลให้บ้านปูสามารถรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงในการสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 160 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5,343 ล้านบาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยปี 2566 ที่ USD 1: THB 34.8022)
ในปี 2567 บ้านปูยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน พร้อมสร้างการเติบโตต่อยอดประโยชน์สูงสุดจากระบบนิเวศทางธุรกิจภายในกลุ่มบ้านปู (Banpu Ecosystem) เพื่อทำให้บ้านปูเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานที่สามารถส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานของโลกในอนาคต ทั้งนี้ จากมติของคณะกรรมการบริษัทที่แต่งตั้งนายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 2เมษายน ที่ผ่านมา ด้วยการนำทัพขับเคลื่อนการบริหารธุรกิจของคนรุ่นใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของกลุ่มบ้านปูทั้งหน่วยธุรกิจและหน่วยสนับสนุน บริษัทฯ มุ่งเน้นการเร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (Business Transformation)และสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งเพื่อส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม