จิตตะ เวลธ์ เผย AI พบหุ้นจีน-ฮ่องกงน่าลงทุนสุด มีโอกาสรับผลตอบแทนในอนาคต เปืดค่าเฉลี่ยผลตอบแทน Jitta Ranking พุ่งกระฉูดชนะตลาด และยังสามารถเอาชนะผลตอบแทนของกองทุนส่วนมากในประเทศได้อย่างน่าตกใจ พร้อมเปิดตัว Jitta Card แพลจฟอร์ม “ใช้จ่าย-ออม-ลงทุน“ ชู AI เสริมแกร่งวินัยการเงิน ขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ สู่โลกลงทุนต่างประเทศ
นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) ผู้นำการใช้ AI ในการลงทุนที่แท้จริง เเปิดเผยว่า ล่าสุด จิตตะ ได้นำอัลกอริทึม Jitta Market Prediction ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เฟ้นหาตลาดที่น่าลงทุน และมีศักยภาพที่จะสร้างผลกำไรดีที่สุดในอนาคต ช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และสร้างผลตอบแทนได้ดีมากขึ้น โดย AI บ่งชี้ว่า เวลานี้ หุ้นจีน-ฮ่องกงเป็นตลาดที่น่าลงทุน และมีโอกาสสร้างผลตอบแทน ในระยะยาวได้มากที่สุด
โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนสามารถฟื้นตัวได้จริง ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ ผลตอบแทน (YTD) ของ Jitta Ranking ประเทศจีนเป็นอันดับ 1 จาก 115 กองทุนจีนในไทย โดย Jitta Ranking หุ้นจีนเพิ่มขึ้น 21.02% และ Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน เพิ่มขึ้น 21.16% เทียบกับดัชนี CSI 300 ที่เพิ่มขึ้น 6.44% ขณะที่ Jitta Ranking หุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 16.30% เทียบกับดัชนี Hang Seng 5.80%
สำหรับผลงานการบริหารกองทุนของบริษัทที่ใช้ AI ในการลงทุนนั้น นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า จากการวัดผลตอบแทนโดยเปรียบเทียบผลตอบแทนของ Jitta Ranking ที่บริหารจัดการการลงทุนด้วย AI กับกองทุนอื่นๆ ในอุตสาหกรรม ตลอดช่วง 4 ปีกับ 1 ไตรมาสที่ผ่านมา พบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ผลตอบแทนของ Jitta Ranking สามารถเอาชนะผลตอบแทนของกองทุนส่วนมากในประเทศได้อย่างน่าตกใจ โดย Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม สร้างผลตอบแทน 140.27% เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนาม นอกจากนี้ Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ก็สร้างผลตอบแทนได้ถึง 77.47% เป็นอันดับ 3 จากกองทุนหุ้นสหรัฐฯ 28 กองทุน
“จากสถิติพบว่าผลตอบแทนของกองทุนที่ Jitta Wealth ใช้ AI ในการบริหารพอร์ต เมื่อนำมาเทียบผลตอบแทนกับกองทุนอื่นๆ แล้ว กองทุนของ Jitta Wealth สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นอันดับต้นๆ ของกองทุน ที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Jitta Ranking ที่ลงทุนในประเทศต่างๆ หรือ Global ETF ที่กระจายการลงทุนไปทั่วโลก ดังนั้นหากนักลงทุนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกลงทุนในกองทุนไหนดี การลงทุนกับ Jitta Wealth ก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุนทั่วไปโดยเฉลี่ย”
พร้อมก้นนี้ ปัจจุบัน จิตตะ ยังพัฒนาเทคโนโลยี AI มาเชื่อมต่อระบบนิเวศการเงินส่วนบุคคล ก้าวไปสู่แพลตฟอร์ม เพื่อการใช้จ่าย-ออม-ลงทุน ที่เรียกว่า Jitta Card เทคโนโลยีที่จะมาช่วยปลดล็อกอุปสรรคใหญ่ของคนไทยด้านพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน รวมถึงการไม่มีวินัยที่ดีพอ โดย Jitta Card ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีมาออกแบบการลงทุนขนาดเล็ก (Micro Investment) ช่วยให้ทุกการใช้จ่ายมีเงินออม และส่งไปลงทุนได้โดยอัตโนมัติ และเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเป็นแห่งแรกของเอเชียเร็วๆ นี้
“การใช้งาน Jitta Card จะเชื่อมต่อกับธนาคารพาณิชย์ 5 รายใหญ่ เมื่อมีการโอนเงินเข้า Jitta Card ทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่าน Jitta Card ก็จะมีการตัดเงินเข้าการออมเงิน เงินดังปล่าวหากสะสมครบ 1,000 บาท ก็สาทารถนำไปลงทุนมนกองทุนต่างๆ ใน Jitta wealth ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนจสกการลงทุนนี้ให้ด้วย เรามีทำแบบจำลอง หากทุกเดือนออมเงินได้ 1,000 บาทและนำไปลงทุนในกองทุนทบไปเรื่อยๆเป็นระยะเวลา 27 ปี คุณจะมีโอกาสสะสมเงินเป็นล้านบาท เก็บใช้วัยเกษียณด้วย ถ้าเทียบกีบเราเก็บเงินเอง ส่วนใหญ่จะถอนเงินออกมาใช้มากกว่าออมกว่าจะออมได้เงินล้านบาทจะยากกว่า เราต้องเอาเทคฯเข้ามาช่วยสร้างวินัยทางการเงิน การเปิดตัว Jitta Card เป้าหมายเราเชื่อว่าจะช่วยคนไทยสามารถมีวินัยการออมเงินมากขึ้นราว 1 ล้านคน จะเป็นกลุ่มคน Gen Z อายุ 20-21 ปี ที่มีจำนวนมากถึง 10 กว่าล้านคน ผมเชื่อว่าทุกคนรู้เรื่องการออมเงินสำคัญ แต่ไม่มีเครื่องมือช่วยเขา ตอนนี้ มีJitta Card เข้ามาช่วยแล้ว นี่เป็น Indirect Way ซึ่งคนที่สมัครใช้ Jitta Card ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลย ส่วนเราจะได้ต่อเมื่อลูกค้าสนใจจะลงทุนกองทุนใน Jitta Wealth มากกว่า ซึ่งจะต้องเปิดบัญชีพอร์ตลงทุนก่อน จึงจะลงทุนได้ สิ่งที่จิตตะได้ คือ มีฐานลูดค้าขยายเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีพอร์ตลูกค้ารวม 68,000 บัญชีแล้ว AUM (มูลค่าสินทรัพย์) 15,000 ล้านบาท ลูกค้าผมเปิดคนละ 1-2 พอร์ต และเยอะสุดก็มี 10 พอร์ต“ นายตราวุทธิ์ กล่าว
โดย Jitta Card (Beta)เปิดให้ทดสอบใช้งานแล้ว ผู้สนใจสามารถลงชื่อ เพื่อขอใช้งานได้ที่ www.jittacard.com
ทั้งนี้ จิตตะ ที่พัฒนา Jitta Intel อัลกอริทึม AI เพื่อการลงทุนของจิตตะมาตลอดช่วง 12 ปีที่ผ่านมา มีการวิเคราะห์และประมวลผล ข้อมูลกว่า 1,000 ล้านชุดข้อมูลต่อวัน วิเคราะห์หุ้นกว่า 48,000 หุ้น ครอบคลุมหุ้น 90% ทั่วโลก เพื่อหาหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดของแต่ละตลาด (Jitta Ranking) ตามหลักการลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investing: VI) ช่วยคัดหุ้นดีราคาถูก สร้างผลตอบแทนชนะตลาดได้ในระยะยาว จิตตะยังนำ AI มาต่อยอดกับการให้บริการกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.จิตตะ เวลธ์ ด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่มี ประกอบกับจำนวนกองทุนส่วนบุคคลกว่า 68,000 พอร์ต มากที่สุดในประเทศไทย AI ผ่านการทดสอบกว่า 12 ปี ผ่านทุกวัฏจักรการลงทุน ทั้งช่วงตลาดเติบโตและตกต่ำ และพิสูจน์ผลตอบแทนยิ่งสูงหลังวิกฤติ
นอกจากนี้จิตตะ เวลธ์ ยังนำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automated Investing) มาบริหารจัดการพอร์ตลงทุนให้กับนักลงทุนอย่างครบทุกมิติ ทั้งการบริหารความเสี่ยง การจัดสินทรัพย์ให้กระจายทั่วโลก รวมถึงการปรับพอร์ตรายบุคคลอัตโนมัติอีกด้วย