บมจ. ฑีฆาก่อสร้าง ครบรอบปีที่ 40 ยืนหนึ่งด้านการก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 5-10% ต่อปี ระบุ TEKA ยืนหยัดด้านคุณภาพและมีมาตรฐานที่ดี ตอกย้ำผู้นำด้านการก่อสร้างอาคารชั้นนำ ที่มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง เติบโตเคียงคู่อุตสาหกรรมก่อสร้างไทย พร้อมมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส
ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA เปิดเผยว่า ปีนี้นับเป็นปีที่พิเศษมากสำหรับฑีฆาก่อสร้าง เนื่องจากเป็นวาระครบรอบ 40 ปี โดยบริษัทฯ ยืนหยัดงานก่อสร้างด้วยคุณภาพและมีมาตรฐานที่ดี นับจากวันที่เริ่มก่อตั้งเมื่อ 10 มกราคม 2527 โดยทีมงานวิศวกรรับเหมาก่อสร้างอาคารมากประสบการณ์กับกระบวนการทำงานอย่างมีระบบ และสร้างสรรค์นวัตกรรมการทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัท ฯ มีผลงานโดดเด่น ได้รับการยอมรับเสมอมา โดย TEKA มุ่งมั่น นำความรู้ประสบการณ์ ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สร้างผลงานเพื่อความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า "เราคือผู้นำด้านการก่อสร้างอาคาร คุณภาพดีมีมาตรฐานอย่างแท้จริง เราพร้อมสร้างทุกความสำเร็จ เพื่ออนาคตที่กำหนดได้ BUILDING SUCCESS, SHAPING THE FUTURE"
ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ได้เผชิญกับหลากหลายเหตุการณ์สำคัญ แต่ TEKA ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการให้ความสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัท ฯ และสามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัท ฯ มุ่งเน้นพัฒนาเพื่อรักษาและเสริมสร้างความไว้วางใจ จะมุ่งเน้นทั้งหมด 3 ส่วน คือ 1. Business Growth โดยรักษาฐานลูกค้าเดิม หาตลาดงานก่อสร้างใหม่ ๆ ลงทุนขยายธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต บริหารความเสี่ยงเพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน 2. Smart People มีการปรับโครงสร้างองค์กร มุ่งพัฒนาบุคลากร และบริหารกำลังพลให้มีประสิทธิภาพ และ3. Innovative Culture พร้อมสร้าง และพัฒนาองค์กรด้วยนวัตกรรม
นายสุพล จงจินตรักษา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA กล่าวเสริมถึงด้านการเงิน และมุมมองการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ว่า บริษัท ฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5 – 10% ต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 10% โดยในปี 2566 มีรายได้จากการก่อสร้างอยู่ที่ 2,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.30% จากปี 2565 มีรายได้อยู่ที่ 1,933 ล้านบาท และเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่ารายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างไว้ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้ในปี 2566 มาจากการเติบโตของรายได้โครงการใหม่ โดย ณ สิ้นปี บริษัท ฯ มี Backlog อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท สามารถรองรับรายได้สำหรับปี 2567 - 2568
ฐานะทางการเงินของ TEKA ถือว่า แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้านการเงินและไม่มีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในการดำเนินงาน ทำให้บริษัท ฯ มีความพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทั้งความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจทั้งจากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง รวมถึงทางบริษัท ฯ พร้อมที่จะขยายงาน เพิ่มทีมงาน และเตรียมเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
นายณัฐวัฒน์ ภาสุกุลพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานวิศวกรรมและประกันคุณภาพ บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA กล่าวถึงความเชี่ยวชาญ และคุณภาพงานการก่อสร้างของบริษัทว่า กลยุทธ์ที่เราจะครองใจลูกค้าทั้ง Developer และ Construction Management คือ Quality Policy หรือ นโยบายคุณภาพ โดยนําระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาประยุกต์ใช้เพื่อให้มีคุณภาพในการทำงาน และเกิดการทำงานตามมาตรฐานสากล พร้อมยกระดับมาตรฐาน และความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความสำคัญด้าน QA Department โดยหน่วยงานคอยดูแลและตรวจสอบคุณภาพ สามารถการันตีได้ว่างานก่อสร้างของเราสามารถตอบสนองความต้องการทางด้านคุณภาพได้ตามตกลง ซึ่งเป็นการรับประกันที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ลูกค้าของเราจะได้รับงานและบริการที่มีคุณภาพจากเรา
มุ่งเน้น ถึงด้าน Standardize โดยหน่วยงานของ TEKA ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 และได้รับรองมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับ Platinum (ระดับสูงสุด) จากสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) รวมถึงมีแผนกดูแลลูกค้า คอยให้บริการหลังการส่งมอบโครงการ ซึ่งบริษัทฯ ยังมีการบริหารความสัมพันธ์อันดีระหว่างเราและลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถตอบสนองความพึงพอใจ และส่งมอบงานที่ตรงตามความต้องการมากที่สุดต่อไป
นางศิริวรรณ ศักดิ์สุริยา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA กล่าวถึงความพร้อมสู่ความยั่งยืนของบริษัทว่า TEKA มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างเสถียรภาพและความยั่งยืนให้กับองค์กร โดยองค์กรให้ความสำคัญเรื่องบุคลากร เช่น การสร้างคน การพัฒนาคน ในมิติความยั่งยืน ภายใต้รากฐานสำคัญในการทำงานขององค์กร คือ TEKA’S Core Value T = Teamwork การทำงานเป็นทีม E = Excellence ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน K = Knowledge Improvement การหมั่นฝึกฝน และใฝ่หาองค์ความรู้ใหม่ ๆ วิธีการใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้ได้งานที่บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ A = Accountability มีความรับผิดชอบ และ S = Sustainability การส่งมอบงานคุณภาพอย่างยั่งยืน อีกทั้งบริษัท ฯ ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านการก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งด้านการบริหารจัดการ การเพิ่มคุณภาพ และ
การทำงานที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังเล็งเห็นความสำคัญทางด้าน Sustainability จึงได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพข้อมูลความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน ซึ่งครอบคลุม ทั้ง ESG (Environmental, Social, Governance : ESG) หรือโครงการความยั่งยืนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยิ่งเป็นสิ่งตอกย้ำว่า บริษัท ฯ ให้ความสำคัญกับทุกมิติของสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเป็นบริษัท ฯ ที่มีคุณภาพ พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป