Market

WHAUP โชว์งบ 9 เดือนแรกกำไรปกติแตะ 957 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวปันผลระหว่างกาล 0.060 บาทต่อหุ้น จ่อ XD วันที่ 21 พ.ย.นี้
8 พ.ย 2567

บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ประกาศงบงวด 9 เดือนแรก  ปี 2567 อานิสงส์ยอดขายธุรกิจน้ำ – ไฟฟ้าดันกำไรปกติแตะ 957 ล้านบาท ด้าน CEO “สมเกียรติ เมสันธสุวรรณ” แย้มไตรมาส 4/2567 เตรียมเซ็นสัญญางานใหมทั้งโซลาร์และน้ำเพิ่ม สอดรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าในนิคมฯ WHA ล่าสุดบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลงวด 9 เดือน หุ้นละ 0.060 บาท เตรียมขึ้น XD วันที่ 21 พ.ย. และกำหนดการจ่ายเงินปันผลวันที่ 4 ธ.ค.2567

           

บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2567 โดยบริษัทฯ รับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติจำนวน 1,048 ล้านบาท มีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) 275 ล้านบาท ลดลง 42% และมีกำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 81 ล้านบาท ลดลง 84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 3,053 ล้านบาท มีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) จำนวน 957 ล้านบาท ลดลง 15% และมีกำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 883 ล้านบาท ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจน้ำที่เวียดนามยังคงแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ ได้รับปัจจัยลบจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วันที่ลดลงจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

 

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานยังคงแข็งแกร่ง โดยภาพรวมธุรกิจสาธารณูปโภค(น้ำ) ในช่วงไตรมาส 3/2567 มีปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกันเท่ากับ 42 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 มีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำทั้งหมด (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) 126 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโตขึ้น 8% (YoY)  โดยในส่วนของปริมาณการจำหน่ายน้ำในประเทศมีการเติบโตขึ้นทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added product) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปริมาณความต้องการใช้น้ำของลูกค้าใหม่ที่ได้เปิดดำเนินการณ์เชิงพาณิชย์ไปในช่วงก่อนหน้า

           

ในส่วนของปริมาณยอดขายและบริหารน้ำในต่างประเทศ (เวียดนาม) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ปัจจัยหลักมาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำโครงการ Doung River จากการได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการขยายพื้นที่การให้บริการในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่ ส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Doung River ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 72 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจำนวน 2 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566

 

ด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) งวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากสัญญา Private PPA ทั้งสิ้น 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% (YoY) จากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โดย ณ สิ้นปีไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ประเภท Private PPA เพิ่มจำนวน 24 สัญญา กำลังการผลิตประมาณ 13 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีการลงนามในสัญญาโครงการ Solar Private PPA สะสมทั้งสิ้น 269 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ราว 944 เมกะวัตต์ ซึ่งแบ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้วจำนวน 697 เมกะวัตต์ และที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 247 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ ได้มีการเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มเติมโดยปัจจุบันมีการติดตั้งไปแล้วจำนวน 38 ตู้ชาร์จ สอดรับกับแผนการลงทุนใน Green Logistics แบบครบวงจรของ WHA Group  

 

ในส่วนของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า ในไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรปกติจำนวน 218 ล้านบาท ลดลง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2567 มีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 685 ล้านบาท ลดลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วันที่ลดลงจากการบันทึกต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ยังอยู่ในระดับสูง และการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งทำให้ได้รับค่า energy payment ลดลง แม้ว่าบริษัทฯ จะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มขึ้น จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตรากำไรในส่วนของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ ภาพรวมของธุรกิจน้ำและไฟฟ้าในช่วงไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งได้มีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงที่ผ่านมา อาทิเช่น โครงการซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ปริมาณ 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับอานิสงค์จากการลงทุนของกลุ่มลูกค้าใหม่ในนิคมอุตสาหกรรม WHA เช่น กลุ่มดาต้าเซนเตอร์ขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้น้ำและไฟฟ้าเป็นจำนวนมากในอนาคต โดยเฉพาะพลังงานสะอาด สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัทในการเดินหน้าต่อยอดการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่ๆ

 

และในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือนปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.060 บาท สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ตามลำดับ

 

พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งได้ประกาศคงอันดับเครดิตขององค์กรและหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนความแข็งแกร่งของภาพรวมธุรกิจ จากการเป็นผู้ให้บริการสาธารณูปโภคแต่เพียงผู้เดียวในนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำของกลุ่มบริษัทดับบลิวเอชเอ ทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม รวมทั้งการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงยังสะท้อนสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีฐานรายได้และส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่ง และมีสภาพคล่องที่เพียงพอ

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com