Market

nnovestX  คาด SET รีบาวด์สลับ แต่ภาพรวมยังลุ้นเหนื่อย
24 ต.ค. 2566

หุ้นไทยวันนี้ ลุ้นฟื้นตัว วิตกสงครามตะวันออกกลาง  ผวาราคาน้ำมันพุ่งดันเงินเฟ้อกลับมาสูง ไทยเจอดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.ย. ร่วงเป็นเดือนที่ 3 เหตุกำลังซื้ออ่อนแอ เงินบาทอ่อน เลื่อนแจกเงินดิจิทัล  กลยุทธแนะนำ “Selective Buy"

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (24 ต.ค.)  บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET รีบาวด์ทางเทคนิค หลังเมื่อวันศุกร์ก่อนหยุดยาวปรับลงแรง และปิดต่ำกว่า1400 จุด ขณะที่ในภาพรวมสัญญาณเทคนิคยังเป็นลบ และไม่มีสัญญาณกลับตัว ทำให้กรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1410 และ 1420 จุด ตามลำดับ และยังมีความเสี่ยงด้านdownside โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1390 และ 1380 จุด ตามลำดับ

 

ประเด็นสำคัญ

• ผู้นำสหรัฐ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี เดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางกลางเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส ขณะที่อิสราเอลชะลอการโจมตีภาคพื้นดินฉนวนกาซาเพื่อเปิดช่องทางการเจรจาทางการทูตสำหรับการปล่อยตัวประกัน

 

• EU พิจารณาขยายเวลากำหนดเพดานราคาก๊าซฉุกเฉินถึง ก.พ. จากความขัดแย้งในตะวันออกกลางและการทำลายท่อส่งก๊าซธรรมชาติในทะเลบอลติก อาจทำให้ราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในฤดูหนาวนี้

 

• สหภาพแรงงาน UAW ขยายเวลาประท้วงเรียกร้องให้คนงาน 6,800 คน หยุดงานประท้วงที่โรงงานประกอบรถยนต์ใหญ่สุดในสหรัฐของบริษัท Stellantis ซึ่งผลิตรถบรรทุก Ram 1500

 

• Chevron ซื้อกิจการ Hess Corp ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯมูลค่าสูงถึง 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์

 

• ก. คลังอาจเลื่อนแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ออกไปภายใน 1Q67 เพื่อทดสอบระบบแอปป้องกันความปลอดภัย พร้อมรับฟังข้อเสนอทุกฝ่าย ปรับนโยบายให้เหมาะสมที่สุด และอาจยกเลิกเงื่อนไขใช้จ่าย 4 กิโลเมตร ยืนยันไม่ซ้ำรอยโครงการจำนำข้าว

 

• ส.อ.ท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.ย. ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 90 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เหตุกำลังซื้ออ่อนแอ รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่า เสนอ ธปท. ควบคุมดอกเบี้ยฝากและกู้

 

• MI Group มีเดียเอเจนซี่คาดงบโฆษณาปลายปีชะลอหลังเผชิญปัจจัยลบทั้งในและตปท. คาดปีนี้โต 4.4% มูลค่าตลาด 8.5 หมื่นล้านบาทคาดอีก 1-2 ปี เม็ดเงินสื่อดิจิทัลสูงกว่าสื่อโทรทัศน์ได้เป็นครั้งแรก

 

กลยุทธลงทุน  ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวน์ได้ แต่ Upside ยังถูกจำกัดเนื่องจากยังคงต้องติดตามความรุนแรงในตะวันออกกลางว่าขยายวงกว้างไปสู่อิหร่านหรือไม่  รวมถึงความกังวลเงินเฟ้อ และผลตอบแทนพันธบัตร ที่อาจเป็นปัจจัยสร้างความผันผวนให้กับตลาด อีกทั้งปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยว่าจะถูกกระทบจากเหตุการณ์ในช่วงต้นเดือนนี้หรือไม่ และความชัดเจนของนโยบายแจกเงินดิจิทัล กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy"

 

Weekly Portfolio : สัปดา ห์นี้มอง SET มีโอกาสจะฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้บ้าง แต่Upside ยังถูกจำกัด เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้งในประเทศและต่างประเทศ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

 

1) หุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูง หลังกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลางกระทบอุปทานน้ำมัน เลือก BCP PTTEP TOP

 

2) หุ้น Undervalued ซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขต Oversold และยังมีพื้นฐานดี อีกทั้งValuation ไม่แพง (PER และ PBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก BDMS CPALL CPN MINT

 

3) หุ้นที่คาดผลประกอบการดีต่อเนื่องไปใน 4Q66 (+YoY, +QoQ) เลือก AP AOT BLA BCH CENTEL รวมทั้ง KCE ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว (+QoQ)

 

ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง  ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

 

โฟกัสหุ้นวันนี้ 

CPALL คาดราคาหุ้นจะปรับตัวดีขึ้น หลัง CPALL และ CPAXT ออกมาปฏิเสธข่าวว่าไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อธุรกิจค้าปลีกในเวียดนาม อีกทั้ง 3Q66 คาด CPALL จะมีกำไรปกติเติบโต 11%YoY ดีสุดในกลุ่มฯ ขณะที่ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 66F ระดับ 30 เท่า(-1 S.D. จาก PE เฉลี่ย 10 ปี)

 

KCE มองน่าสนใจที่สุดในกลุ่มฯ จากเห็นสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นใน 2H66 ตามช่วง High season ของธุรกิจ และต่อเนื่องไปยังปี 67 ตามดีมานด์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์ที่ฟื้นตัวจากการลดสินค้าคงคลัง ขณะที่ Valuation ยังมีส่วนลดเมื่อเทียบกับPE mean ในอดีต

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com