แนวโน้มตลาดวันนี้ (27 ก.ย.) บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน SET หลุดแนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1500 จุด สร้างสัญญาณลบ และ sentiment ลบ จากตลาดหุ้นสหรัฐ เป็นปัจจัยกดดันดัชนีให้ปรับลงต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1490 และ1480 จุด ตามลำดับ ใช้เป็นจุดติดตามถัดไป สำหรับโอกาสในการฟื้นตัวกลับ ด้านกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1500 และ 1508 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• จนท. Fed หลายราย อาทิ นางมิเชล โบว์แมน สมาชิกคณะผู้ว่าการ Fed นางซูซาน คอลลินส์ ประธาน Fed สาขาบอสตัน และนายออสเตน กูลสบี ปธ. Fed สาขาชิคาโกสนับสนุนให้ Fed เดินหน้าปรับขึ้น ดบ. ต่อไปเนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
• Moody's เตือนว่า การปิดการดำเนินงานของรัฐบาลสหรัฐที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 1 ต.ค. นี้ อาจส่งผลเสียต่อเครดิตของประเทศ
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.ย. ปรับลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าคาดจากความกังวลเงินเฟ้อ, การปรับขึ้น ดอกเบี้ย Fed และความวิตกเกี่ยวกับการชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค.
• ครม.มีมติ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 - 30 ก.ย.67 พักชำระหนี้ให้เกษตรรายย่อย (หนี้เงินต้นไม่เกิน 3 แสนบาท) ราว 2.7 ล้านราย ยอดหนี้เงินต้นราว 2.83 แสนลบ. โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แทนเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. 4.50% ต่อปี คิดเป็น 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปี
• วันนี้ รมว.พาณิชย์เจรจาเอกชนขอความร่วมมือลดราคาสินค้าช่วยผู้บริโภคหลังน้ำมัน-ค่าไฟลง เตรียมให้ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่จัดโปรโมชันลดสินค้าทั่ว ประเทศ
• พาณิชย์รายงานมูลค่าตัวเลขส่งออก ส.ค.66 +2.6%YoY ดีกว่าคาด พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 11 เดือน จากผลของกลุ่มสินค้าเกษตรที่กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
• ธปท. ผ่อนคลายการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอก ปท. เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ลดภาระด้านเอกสาร
กลยุทธการลงทุน
แม้ตั้งแต่เข้าสู่เดือน ก.ย. SET อยู่ในทิศทางขาลง เนื่องจากตลาดกังวลการก่อหนี้และความไม่ชัดเจนในนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล อีกทั้งเงินบาทยังอ่อนค่าและFund Flow ไหลออก แต่อย่างไรก็ดี มองตลาดกำลังก้าวสู่สัปดาห์สุดท้ายของ ก.ย. (สิ้นสุด 3Q66) ซึ่งคาดจะเป็นจุดต่ำสุด และจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นใน ต.ค. จากคาดหวังมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น “โอกาสซื้อลงทุน”
โฟกัสหุ้นวันนี้
BCH 3Q66 คาดกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ และทำจุดสูงสุดของปีนี้ใน 4Q66 แรงหนุนจากจำนวนผู้ป่วยคนไทยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และรายได้จากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการปรับค่าเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 66
BCP คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรระยะยาว โดยจะมี ESSO เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ขณะที่ 3Q66 คาดกำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้นทั้งYoY และ QoQ แรงหนุนจาก GRM และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น