ทิศทางหุ้นไทย ไร้แรงส่ง เฟดส่งสัญญาณจะลดดอกเบี้ยช้ากว่าตลาดคาด ดีขึ้น ตลาดหุ้นจีนยังปั่นป่วน ฝั่งไทยตัวเลขเงินเฟ้อลดลง ททท.คาดปีนี้ท่องเที่ยวคึกคัก AOT เตรียมงบลบทุนกว่า 1 หมื่นลบ. พัฒนา 3 สนามบิน
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (6 ก.พ.) บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET เริ่มชะลอตัว ขณะที่เฟดยังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ทำให้ดอลลาร์แข็งค่า บาทอ่อน และ fund flow เริ่มกลับมาไหลออก เป็นปัจจัยกดดันดัชนี โดยมีจุดติดตามบริเวณแนวรับ 1377 จุด หากต่ำกว่า จะกลับมาเป็นสัญญาณลบ ส่วนกรณียังยืนแนวรับดังกล่าวได้ ดัชนีจะซิกแซกขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1390 และ 1396 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• เจอโรม พาวเวล ปธ. Fed ย้ำว่า Fed จะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการลด ดบ. ในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะปรับลด ดบ. ล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยจำเป็นต้องรอดูข้อมูล ศก. เพื่อยืนยันว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะลดลงสู่เป้าหมายของ Fed ที่ระดับ 2%
• ISM รายงานดัชนี PMI ภาคบริการ ม.ค. ของสหรัฐ ขยายตัวสูงกว่าคาด และขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 ทำให้ตลาดกังวลอาจส่งผลให้ Fed ตรึง ฟดบ. ในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด
• ทางการจีนควบคุมการซื้อขาย นลท. ในประเทศและต่างประเทศอย่างเข้มงวดเนื่องจากความปั่นป่วนของหุ้นรุนแรงขึ้น
• พาณิชย์รายงานเงินเฟ้อทั่วไป ม.ค. ติดลบ 1.11%YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสุดรอบ35 เดือน คาด ก.พ.-เม.ย. เงินเฟ้อลดลงต่อจากมาตรการลดค่าครองชีพ คาดปี 2567 ติดลบ 0.3% ถึง 1.7%
• วันนี้ติดตาม รมช. คลัง แถลงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
• สมาคมโรงแรม และ ATTA ระบุมาตรการยกเว้นวีซ่าของรัฐบาลช่วยท่องเที่ยวฟื้นได้ในปีนี้ คาดอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ 70% โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนเพิ่มขึ้น 80% ขณะที่การเที่ยวผ่านกรุ๊ปทัวร์และธุรกิจ MICE ฟื้นตัวดีขึ้น
• AOT เตรียมงบลบทุนกว่า 1 หมื่นลบ. พัฒนา 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค อุดรธานีบุรีรัมย์ และกระบี่ เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร คาด กพท. ออกใบรับรองอากาศยานสาธารณะในเร็วๆ นี้ คาดเข้าบริหารอย่างเป็นทางการช่วง 3Q67
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมอง SET อยู่ในภาวะเปราะบางและการฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด หลังคาดเงินเฟ้อไทยและจีน ม.ค. มีแนวโน้มหดตัว, กนง. จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 7 ก.พ. อีกทั้งดัชนี PMI ภาคบริการ ม.ค. ของสหรัฐ จีนและอียู จะชะลอตัวลง นอกจากนั้นผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทยอาจออกมาอ่อนแอและยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”
Top Picks
KCE มองน่าสนใจสุดในกลุ่มอิเล็กฯ คาด 4Q66 เห็นสัญญาณฟื้นตัวมากขึ้น ส่วนปี2567 คาดกำไรสุทธิโต 48%YoY จากการเติบโตของ EV ที่เป็นกระแสของโลกในอนาคตและบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น ขณะที่ Valuation ไม่แพง ซื้อขายบน PER 67F ที่ 24.0x ต่ำกว่า PER 5 ปีย้อนหลังที่ 32.9x
ADVANC 4Q66 คาดกำไรปกติที่ 7.4 พันลบ. แม้จะลดลง 1.9%QoQ จากผลกระทบของดีลคลื่น 700MHz และดีล 3BB รวมทั้งไฮซีซั่นของ คชจ. การตลาด แต่จะเติบโต9.6%YoY จากการฟื้นตัวของรายได้ การแข่งขันที่น้อยลงในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB และการควบคุมต้นทุน