CHAYO ผลงานทะลุเป้า!!! ปี 66 กำไร 449 ล้านบาท พุ่งเกือบ 64% ทำรายได้รวมกว่า 1,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% ประสบความสำเร็จจากการซื้อหนี้ มีและไม่มีหลักประกัน มาบริหารได้อย่างต่อเนื่อง และมีกำไรจากการขายทรัพย์ NPA เพิ่มขึ้นกว่า 79% หนุนผลงานโต วางเป้าปี 67 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% จ่อออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี ชูดอกเบี้ย 6.25% หนุนเติบโตอย่างมั่นคง
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 448.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 174.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 63.53% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและกำไรจากการขายจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายที่เพิ่มขึ้น
โดยมี รายได้รวม 1,527.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 527.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 52.83% เนื่องจาก รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืม เพิ่มขึ้นจำนวน 480.00 ล้านบาท และ 32.38 ล้านบาทตามลำดับ นอกจากนี้ มีรายได้จากธุรกิจบริการจัดหาคน เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 17.55 ล้านบาท
สำหรับปี 2566 บริษัทมียอดจัดเก็บจากหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและยอดรายได้จากการขายหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพจำนวน 439.06 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนจำนวน 98.63 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 22.46% โดยที่ยอดจัดเก็บหนี้ชนิดไม่มีหลักประกันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากการที่ บริษัทมีการซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกำไรจากการขายสินทรัพย์รอการขายจำนวน 88.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 39.16 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นกว่า 79% เนื่องจากบริษัทมีการขายทรัพย์สินรอการขายได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ในปี 2566 CHAYO ทำสถิติสูงสุดในการซื้อหนี้เข้ามาเติมพอร์ตกว่า 19,485.48 ล้านบาท และ ณ สิ้นปี 2566 Chayo และ Chayo JV มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทะลุ 100,000 ล้านบาท สนับสนุนรายได้และกำไร และการเติบโตที่แข็งแกร่ง
พร้อม ตั้งเป้าปี 2567 โดยตั้งเป้ารายได้รวมโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน และเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL & NPA) มาบริหารอย่างต่อเนื่อง โดนตั้งเป้าซื้อหนี้เสียเพิ่มอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 - 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคงและพร้อมที่จะรับโอกาสที่เข้ามาในอนาคต บริษัทฯ เตรียมระดมทุนเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท อายุ 3 ปี ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 ดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยคาดว่าจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในช่วงวันที่ 12-14 มีนาคม 2567 ผ่าน บล. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) บล. เอเซีย พลัส บล.สยามเวลธ์ บล.พาย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ “BB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” (Stable) โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566
รวมไปถึง ความคืบหน้าของ บมจ. ชโย แคปปิตอล หรือ CCAP ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการให้สินเชื่อมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน รวมถึงให้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 125,000,000 หุ้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มบริษัทที่มีฐานทุนแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ติดปีกโตสำหรับแผนการขยายพอร์ตในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อ