Market

InnovestX  คาด SET ฟื้นตัวจำกัด ยังดูมี Downside
12 พ.ย 2567

 

 

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ (12 พ.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดยังขาดปัจจัยหนุนและดอลลาร์ที่แข็งค่า กดดันเงินบาทให้อ่อนค่า เป็นลบต่อทิศทาง Fund Flow ให้ไหลออก รวมถึงกังวลนโยบายทรัมป์กระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว ปัจจัยลบต่างๆ ทำให้ดัชนียังดูมี Downside โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1450 และ 1440 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1465-1470 จุด

 

ประเด็นสำคัญก

• กระทรวงพาณิชย์จีนออกมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดชั่วคราวกับบรั่นดีจาก EU ซึ่งสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมจีนและถูกมองเป็นการตอบโต้หลังขึ้นภาษีนำเข้า EV จีน โดยจะมีผลในวันที่ 15พ.ย. นี้

 

• จีนเผยเม็ดเงิน FDI 3Q67 ลดลง 8.1 พันล้านดอลลาร์ หลังบริษัทต่างชาติทยอยถอนการลงทุนบางส่วนเนื่องจากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์, มุมมองลบต่อเศรษฐกิจจีน และการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น 

 

• Goldman Sachs ประเมินชัยชนะการเลือกตั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์จะกระทบต่อตลาดทั่วเอเชีย และมองว่าจะเห็นการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนอย่างต่อเนื่องสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย หรือเม็กซิโก

 

• สำนักข่าวนิเคอิเอเชียเผย 7 ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่มีกำไรสุทธิรวม 3Q67 ปรับลง 57%YoY ลดลงครั้งแรกในรอบ 8 ไตรมาส หลังยอดขายหด 4%YoY แม้ได้เงินเยนอ่อนค่าช่วยหนุนแต่ไม่พอชดเชยต้นทุนพุ่งสูง ทั้งเผชิญเกมรุก EV จีนกดดันการแข่งขันรุนแรงุ

 

• สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ เผยกว่า 1 ใน 4 ของการผลิตน้ำมันดิบและ 16% ของการผลิตก๊าซฯ บริเวณอ่าวเม็กซิโกฝั่งสหรัฐฯ ยังหยุดชะงักเนื่องจากผลกระทบของพายุราฟาเอล  

 

• แหล่งข่าวเผยว่า วานนี้คณะกรรมการคัดเลือกบอร์ด ธปท. มีมติเลือก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีตรมว. คลัง เป็นประธานบอร์ด ธปท. คนใหม่ โดยเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบแล้วทูลเกล้าฯ เพื่อทรงแต่งตั้งต่อไป

 

• รัฐบาลคาดนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2567 คึกคัก ยอดจองเที่ยวบินพุ่ง 36%YoY ตลอดเดือนพ.ย มีจำนวน 73,500 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 2,450 เที่ยวบิน

 

 Daily top picks

AWC: 3Q67 กำไรปกติอยู่ที่ 288 ลบ. เพิ่มขึ้น 129%YoY และ 42%QoQ แรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมและการบริการที่แข็งแกร่งขึ้นและค่าใช้จ่ายภาษีที่ลดลง ขณะที่มองกำไรจะแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 4Q67 หนุนให้ปี 67 คาดมีกำไรปกติเติบโต 57%YoY และโตต่อ 23%YoY ในปี 2568 จากการดำเนินงานโรงแรมที่ดีขึ้น ซึ่งโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น

 

BBL: เป็นหุ้นที่เราแนะนำซื้อเพียงตัวเดียวในกลุ่มธนาคาร โดยมองมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก 1) Valuation ถูกที่สุดในกลุ่มธนาคาร 2) Credit Cost มีแนวโน้มปรับตัวลดลง พร้อมกับมี Upside จาก THAI 3) สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม 4) มี Upside สำหรับ NIM และ 5) มีความเป็นไปได้สูงหรือมี Upside ที่จะปรับอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยปัจจัยลบที่มีต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศมีค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดีคาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะยังชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มกาปรับลดดอกเบี้ยยังไม่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงความชัดเจนในการดำเนินนโยบายของทรัมป์ซึ่งเป็นปธน. สหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งน่าจะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป ทั้งนี้ผลกระทบจากความคาดหวังของนโยบบายรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจมหาภาคจะทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงและอาจจะส่งผลกับทิศทาง Fund Flow โดยเฉพาะนโยบายระหว่างประเทศที่มีต่อจีน ส่วนปัจจัยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”   

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com