“อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” มั่นใจในอนาคตและโอกาสธุรกิจใหม่ใน SINGER ส่งสัญญาณขอซื้อหุ้น SINGER จาก Rabbit Holdings ที่ราคา 20 บาทต่อหุ้น ทั้งหมดประมาณ 195.1 ล้านหุ้น ที่ Rabbit Holdings ถืออยู่ภายใน 3 ปี สิ้นสุดปี 2570 ย้ำความเชื่อมั่น SINGER ธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ควบคู่การบริหารที่รัดกุม จะสนับสนุนการเติบโตรอบใหม่ของ SINGER และทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนอย่างมั่นคง
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“RABBIT”) ได้แจ้งมติผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ได้อนุมัติรายการการขายหุ้น SINGER ที่ถืออยู่ทั้งหมดจำนวนประมาณ 195.1 ล้านหุ้น ที่ราคา 20 บาทต่อหุ้น โดยธุรกรรมดังกล่าว นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา จะมีสิทธิซื้อหรือให้สิทธิกับบุคคลอื่นที่จะซื้อหุ้น SINGER ทั้งหมดประมาณ 195.1 ล้านหุ้น ที่ Rabbit Holdings ถืออยู่ที่ราคา 20 บาท ภายใน 3 ปี สิ้นสุดปี 2570 ตามเงื่อนไขของสัญญา รวมมูลค่าประมาณ 3,903 ล้านบาท
“ในฐานะพาร์ทเนอร์ของ BTS Group และ Rabbit Holdings ผมอยากสร้างความมั่นใจ และยังคงมีความเชื่อว่า SINGER มีศักยภาพทางธุรกิจในอนาคต โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา SINGER ได้สะท้อนภาพของผลกระทบจากสถานการณ์โควิดเพื่อรองรับความเสี่ยงไว้แล้ว หลังจากนี้ ธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ของทีมผู้บริหารของ SINGER เช่น การปล่อยสินเชื่อมือถือในแคมเปญ Lock Phone , การทำ Debt Consolidation พร้อมกับการควบคุม NPL และบริหารต้นทุนอย่างรัดกุม นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุน รวมทั้ง ขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ เช่น สินค้ากลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ EV โซล่าร์ รูฟ รวมถึง การขยายธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เป็นเรือธงในการสร้างรายได้ จะทำให้ SINGER และ SGC กลับมามีผลการดำเนินงานที่ดีได้
นอกจากนี้ SINGER มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value per Share) อยู่ที่ 17.1 บาทต่อหุ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น และ SINGER ก็มีเงินสดเพียงพอต่อการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ในอนาคต”
นายอดิศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ SINGER ประกอบธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งภายในบ้านและเชิงพาณิชย์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ซิงเกอร์” ด้วยสินเชื่อระบบเงินผ่อนการขายแบบเช่าซื้อ โดยบริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อผ่านทาง บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด ซึ่ง SINGER ถือหุ้นอยู่ ร้อยละ 74.92