บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ จ่ายปันผลงวดปี หุ้นละ 0.03 บาท/ หุ้น ขึ้น XD 7 พ.ค.  หลังปี 2566 กวาดรายได้รวม 1,185 ล้านบาท กำไร 31 ล้านบาท พร้อมเปิดแผนธุรกิจปีนี้ลุยสร้างรายได้เพิ่ม ชู“Floating Solar”  โดดเด่น ปักหมุดเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจใหม่เป็น 10 – 15 % 

นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR) ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ (Masterbatch) เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ (Compound) และสีผสมพลาสติกชนิดผง (Dry Colorant) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติอนุมัติการจ่ายปันผล สำหรับงวดผลดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม- 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยในปีนี้ธุรกิจพลังงานทดแทนประเภท ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ จะเป็นหน่วยธุรกิจที่สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น คาดการณ์กำลังการผลิตอยู่ที่ 30 – 50 เมกะวัตต์ เนื่องจากทยอยส่งมอบงานของลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม  และแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม ที่ปัจจุบันความต้องการของลูกค้ายังมีอยู่ตลอด เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและยังเป็นพลังงานสะอาด  

“ภาพรวมธุรกิจในปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากธุรกิจใหม่ ธุรกิจพลังงานทดแทน ที่บริษัทฯเข้ารับงานออกแบบ จำหน่าย และติดตั้ง (EPC) ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน  รวมถึงการขยายลูกค้าใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ ที่มุ่งหาพลังงานสะอาด“ 

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลปลดล็อกการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) กำลังผลิตเกิน 1 เมกะวัตต์ ไม่ต้องขอใบอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อช่วยภาคอุตสาหกรรมลดต้นทุนค่าไฟฟ้า เชื่อว่าจะเป็นสนับสนุนธุรกิจของบริษัทฯโตต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกันบริษัทฯมีแผนการลงทุนในธุรกิจอื่นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันอยู่ที่ 2% เป็น 10-15% ของรายได้รวม ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2566 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2566)  กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 1,185 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย จำนวน 1,178 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 31 ล้านบาท