ทิศทางหุ้น มีสัญญาณเทคนิคกลับตัว ตลาดยังไร้ปัจจัยบวก ธปท.ยันไม่ลดดอกเบี้ย IMF เตือน ศก. จีนเผชิญเสี่ยง ธนาคารกลางจีน คง ดบ. นโยบาย ส่วน ECB ลั่นไม่บดดบ.ตลอดปีนี้
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (16 ม.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด แม้ SET ยังไม่ได้แสดงสัญญาณกลับตัว อย่างไรก็ตาม ดัชนีลงมาใกล้แนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1400 จุด ซึ่งคาดว่าดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวจากแนวรับดังกล่าว ด้านกรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน1416 จุด ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณบวกต่อภาพการฟื้นตัว โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1430 จุด
ประเด็นสำคัญ
• ส.อ.ท. เตรียมเสนอรัฐบาลดูแลค่าไฟฟ้าระยะเร่งด่วนปี 2567 วางเป้าหมายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกิน 3.60 บ./หน่วย ด้าน ก. พลังงานทำประชาพิจารณ์ไฟฟ้าสีเขียว สรุปข้อมูลภายใน ก.พ. นี้ กำหนดค่าไฟระยะแรก 4.56 บ.
• ธปท. ยืนยันนโยบายการเงินไม่ผิดทาง ระบุ ศก. มีปัญหาที่โครงสร้าง การลด ดบ. ไม่สามารถแก้ได้ เตรียมหารือกับ ธ.พ. ดูแลลูกหนี้ที่ผ่อนชำระหนี้ไม่ไหว พร้อมดูแลต้นทุน-ประสิทธิภาพ ธ.พ. เพื่อลดส่วนต่าง ดบ. ระยะยาว
• กลุ่มกบฏฮูตีเตือนจะขยายเป้าหมายการโจมตีเรือสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดง รวมถึงเรือสินค้าสหรัฐ หลังจากสหรัฐและอังกฤษใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
• IMF เตือน ศก. จีนกำลังเผชิญความท้าทายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แนะนำปฏิรูปโครงสร้างเพื่อเลี่ยงไม่ให้ ศก. ชะลอตัวลงรุนแรง
• PBOC คง ดบ. นโยบาย (MLF ระยะ 1 ปี) ไว้ที่ 2.50% สวนทางที่คาดว่าจะปรับลงเพื่อรับมือภาวะเงินฝืดและกระตุ้นการปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของ ศก.
• Bloomberg ระบุจีนนำเข้าชิปลดลง 15.4%YoY สู่ระดับ 3.494 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 ผลจากความไม่แน่นอนทาง ศก. และมาตรการห้ามส่งออกชิปไปยังจีนของสหรัฐ
• โรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ สมาชิก คกก. ควบคุมนโยบายของ ECB กล่าวว่า ECB อาจไม่มีการปรับลดดบ. ตลอดทั้งปี 2567
กลยุทธลงทุน ในช่วงสั้นตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ซึ่งคาดตัวเลขเศรษฐกิจจีน (GDP 4Q66) และสหรัฐ (ยอดขายปลีกและยอดขายบ้านมือสอง) ยังออกมาไม่สดใสมากนัก อย่างไรก็ดี ความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนและลดดอกเบี้ยของเฟดคาดจะช่วยลดแรงกดดันลงได้บ้าง ภายใต้ในประเทศที่ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
โฟกัสหุ้นวันนี้
KTB 4Q66 คาดกำไรเติบโต 27%YoY และทรงตัว QoQ หนุนจาก NIM ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดกำไรเติบโต 21%YoY และคาด NIM ขยายตัวมากสุดความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ รวมทั้งยังเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงจูงใจ โดยคาดให้ Div. Yield ราวปีละ 5.6%
GULF 4Q66 คาดกำไรโตต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้า IPP (GPD) 1 หน่วยเริ่มดำเนินการในเดือน ต.ค. 66 รวมทั้งกำไรจาก Jackson Generation เพิ่มขึ้น คาดปี 2566 กำไรปกติโต 32%YoY และ 28%YoY ในปี 2567 อีกทั้งราคาหุ้นยัง Laggard โดยมี PER และ PBV ปี 2567 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี