แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (14 มิ.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ยังอ่อนแรง และการฟื้นตัวถูกจำกัด โดยมีแนวต้านบริเวณ 1320 และ 1330 จุด ตามลำดับ จากปัจจัยการเมืองกดดันดัชนีโดยต้นสัปดาห์หน้าวันที่ 18 มิ.ย. มีหลายประเด็นที่ต้องติดตาม รวมถึงทิศทาง fund flow ไหลออก ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1305 และ 1300 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• สหรัฐรายงานดัชนี PPI ทั่วไป พ.ค. +2.2%YoY และดัชนี PPI พื้นฐาน พ.ค. +2.3%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ 2.42 แสนราย สูงสุดรอบ 10 เดือน และสูงกว่าคาด
• OPEC คาดอุปสงค์น้ำมันจะพุ่งขึ้นที่ระดับ 116 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปี 2588 พร้อมกับตำหนิรายงานของ IEA ที่คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะถึงจุดสูงสุดภายในปี 2572
• รัฐบาลจีนคาดหวัง EU จะทบทวนอัตราภาษีนำเข้าEV ของจีน และชะลอการดำเนินนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปจากการแข่งขัน
• เกาหลีใต้ขยายเวลาการบังคับใช้คำสั่งห้ามขายชอร์ตออกไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2568 และวางแผนใช้บทลงโทษที่รุนแรงขึ้นกับ นลท. ที่ขายชอร์ตหุ้นซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ทั้งการเพิ่มโทษทางการเงินและโทษจำคุก และมีโทษจำคุกตลอดชีวิต
• ม. หอการค้าไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค. ปรับลงเป็น 60.5 ลดลงต่อเป็นเดือนที่ 3 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน กังวลการเมืองไม่นิ่ง ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น พร้อมแนะนำรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายลงทุนเพื่อพยุง ศก. ฟื้นปลายปี พร้อมคงเป้า GDP ปีนี้ที่ 2.6%
• ครม. เตรียมออกประกาศส่งเสริมลงทุนตามกฎหมาย EEC ภายใน มิ.ย. มีภาคเอกชนรอใช้สิทธิ 30 ราย วงเงินลงทุนรวม 2.1 แสนลบ. ใน 5 กลุ่มฯ เตรียมขยายเมืองใหม่อัจฉริยะ ตั้งนิคมฯ สีเขียว 5 พันไร่
• นายกฯ ระบุรัฐบาลเตรียมหาแนวทางอื่นช่วยเหลือปชช. โดยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการกำหนดกรอบเงินเฟ้อใหม่ ซึ่งอาจจะสามารถทำให้ความยืดหยุ่นในแง่ของการลด ดบ. เป็นไปได้มากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบาง โดยได้รับแรงกดดันจากประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะกดดันให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% เช่นเดิม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดยังไร้สัญญาณบวกใหม่ในสัปดาห์นี้ โดยเงินเฟ้อ พ.ค. ของสหรัฐและจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.50% แต่ปรับ dot plot ลดดอกเบี้ยในปีนี้เหลือเพียง 1 ครั้ง จากคาดการณ์เดิมที่ 3 ครั้ง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
BDMS 2Q67 คาดกำไรปกติโต YoY แต่จะลดลง QoQจากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติโต 13%YoY สู่ 1.6 พันลบ. โดยการดำเนินงานและกำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H67 ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 67F ระดับ 27 เท่า ต่ำกว่าระดับ -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดภูมิภาคที่ 28 เท่า
BCP มองได้ประโยชน์จากราคาก๊าซในยุโรปที่ฟื้นตัว ค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินตามฤดูกาล ขณะที่มอง Downside ค่าการกลั่นระดับปัจจุบัน (2-3 ดอลล่าร์/บาร์เรล) อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้ง Valuation ไม่แพง PER 67F เพียง 3.5 เท่า คาด Div. Yield น่าสนใจที่ 7%