Market

InnovestX คาด SET ฟื้นจำกัด สัญญาณยังเป็นลบ
1 ก.ค. 2567

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ (1 ก.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ มองมาตรการ uptick ที่เริ่มในวันนี้ คาดช่วยลดความผันผวนของตลาดได้บ้าง อย่างไรก็ตาม สัญญาณโดยรวมยังเป็นลบ และตลาดที่ยังขาดปัจจัยหนุนรวมถึงทิศทาง fund flow ไหลออก ทำให้คาดการฟื้นตัวยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1310 และ 1320 จุด ตามลำดับ ขณะที่ยังมีความเสี่ยงด้าน downside โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1290 และ 1280 จุด

 

ประเด็นสำคัญ

• CNN ระบุผลสำรวจชาวอเมริกันซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์การแสดงวิสัยทัศน์ 67% ให้โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะ มีเพียง 33% ที่ให้ ปธน. โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ เนื่องจากมีการพูดที่ติดขัด และขาดความต่อเนื่อง

 

• สหรัฐรายงานดัชนี Headline PCE พ.ค. +2.6%YoY และ 0.0%MoM ส่วนดัชนี Core PCE พ.ค. +2.6%YoY และ 0.1%MoM ตามตลาดคาด

 

• USDA รายงานสต็อกข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลี ณ สิ้นสุดวันที่ 1 มิ.ย. อยู่ในระดับสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะสต็อกข้าวโพดซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี

 

• จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต มิ.ย. ทรงตัวเท่ากับ พ.ค. 67 ขณะที่ 5M67 รายได้และกำไรของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศเติบโต 11.6%YoY และ 16.3%YoY ตามลำดับ

 

• ซาอุดีอาระเบียอาจปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ขายให้กับภูมิภาคเอเชียเป็นเดือนที่ 2 ในเดือน ส.ค.นี้ ตอกย้ำถึงแรงกดดันที่ผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่ม OPEC เผชิญ ขณะที่อุปทานน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC ยังคงเพิ่มขึ้นและ ศก. โลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ

 

• สศอ. รายงานดัชนี MPI พ.ค.67 หดตัว 1.54% ส่งผลให้ 5M67 หดตัว 2.08% สะท้อนปัญหาขาดกำลังซื้อใน ปท. หนี้ครัวเรือนและ ดบ. อยู่ในระดับสูง ขณะที่ มิ.ย. 67 จับตา ศก. ส่งสัญญาณชะลอตัว

 

• สนค. ระบุ 5M67 ไทยส่งออกทูน่ากระป๋อง 2.21แสนตัน เพิ่มขึ้น 19.39%YoY ยังคงเป็น ปท. ส่งออกทูน่ากระป๋องอันดับ 1 ของโลก หนุนจากปริมาณทูน่าที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนลดลง ความต้องการเพิ่มขึ้น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทำให้มีการสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้น

 

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์  มองตลาดหุ้นไทยยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและปัจจัยหนุนใหม่ๆ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้ 

 

1) หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA TOP BEM MINT OSP BBL SCGP AOT

 

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC CPALL BDMS BBL BEM   

 

3) หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP TU MINT (ทั้งนี้ KCE SCGP แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอ)

 

4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

 

กลยุทธ์การลงทุน  ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศซึ่งในวันที่ 3 ก.ค. ศาล รธน. จะมีการนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 10 ก.ค. ศาล รธน. จะมีการนัดพิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ มิ.ย. จีน อียูและสหรัฐฯ ซึ่งคาดจะออกมาทรงตัวถึงขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

 

Top Picks

PTTEP มองราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งในระยะสั้นยังเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น และยังเป็นหุ้นที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่ผลการดำเนินงานและงบดุลยังแข็งแกร่ง โดย 2Q67 คาดกำไรจะดีขึ้นต่อเนื่องจากราคาน้ำมันและปริมาณการขายที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

 

BTG ช่วงสั้นมองได้ Sentiment บวกจากราคาหมูในประเทศที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ 2Q67 คาดจะพลิกกลับมาเป็นกำไรครั้งแรกในรอบปี หลังต้นทุนอาหารสัตว์ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ราคาและปริมาณส่งออกไก่เนื้อที่ดีขึ้น และราคาสุกรในไทยและกัมพูชาปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง

 

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com