Market

InnovestX มองเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำคาด เป็นปัจจัยหนุน SET
16 ม.ค. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (16 ม.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์  คาด แม้ CPI สหรัฐฯ ออกมาตามคาด อย่างไรก็ตาม Core CPI ออกมาต่ำกว่า ช่วยให้ดอลลาร์ และ Bond Yield สหรัฐฯ ชะลอตัว มองเป็นปัจจัยหนุน SET ได้ โดยมีแนวต้านที่คาดรอทดสอบอยู่ที่ 1360-1365 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1340-1345 จุด ทั้งนี้ภาพรวมให้ติดตาม 1380 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะสร้างสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม

 

ประเด็นสำคัญ

• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 2565 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะลดลงเพียง 992,000 บาร์เรล

 

• สหรัฐฯ เผยดัชนี Core CPI ธ.ค. 2567 ปรับตัวขึ้น 3.2%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลง และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

• กลุ่มบจ. การเงินสหรัฐฯ เช่น Goldman Sachs, JP Morgan, BlackRock, Well Fargo และ Citi Group เผยผลประกอบการ 4Q67 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้

 

• รองประธาน ECB ส่งสัญญาณว่า ECB จะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยต่อไปท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา หลังข้อมูลล่าสุดชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน

 

• ก.ล.ต. เผยกำลังพิจารณาเรื่องบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้น เพื่อผู้ลงทุนจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจลงทุนและอาจมีมาตรการเสริมเพิ่มเติม โดยคาดจะมีความชัดเจนออกมาภายใน 1Q68 จากเดิมที่คาดจะชัดเจนเดือน ธ.ค. 2567 

 

• Bloomberg รายงาน ก.ล.ต. กำลังพิจารณาอนุญาตให้เข้าจดทะเบียน Bitcoin ETF ในตลาดหุ้นไทยเป็นครั้งแรก ให้นักลงทุนรายย่อยและสถาบันเข้าลงทุนได้ 

 

• ก.ล.ต. เผยว่าไม่มีแนวคิดยกเลิก Short Sell เนื่องจากยังมีความจำเป็นต่อตลาดหุ้นไทย แต่อาจต้องพิจารณาเสริมมาตรการกำกับดูแลตามความเหมาะสม และจะประเมินประสิทธิผลและทบทวนการใช้เกณฑ์ Uptick ซึ่งอาจกระทบต่อมูลค่าการซื้อขายของตลาด

 

กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวโดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1400 จุด แม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคจากความกังวลเสถียรภาพการเมืองและ ESG ของบจ. รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการส่งออกรถยนต์ที่คาดอ่อนแอลง แต่ยังมีความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพในประเทศเพิ่มเติม รวมถึงการเริ่มต้นของมาตรการ Easy E-Receipt ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 จะช่วยกระตุ้นงบ 1Q68 ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดคาด GDP 4Q67 ของจีนจะเพิ่มขึ้น 5%YoY และเงินเฟ้อ ธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น 2.9%YoY ทั้งนี้มองแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการลดดอกเบี้ยของเฟดจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม อาจจะไม่กดดันลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 Daily top picks

DELTA: 4Q67 คาดจะเป็นบริษัทเดียวที่รายงานกำไรปกติเติบโต YoY ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราดูแลอยู่ เนื่องจากได้ประโยชน์จากวัฏจักรการเติบโตของ AI และอัตรากำไรขั้นต้นยังคงแข็งแกร่งหลังมีรายได้จากผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงที่พัฒนาโดย DELTA Thailand ซึ่งไม่ต้องจ่ายค่า Royalty Fee ให้กับ DELTA Taiwan ในสัดส่วนสูง ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อเก็งกำไรวันนี้ไม่เกิน 145 บาท

 

CPALL: 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ High Season และยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com