อินโนเวสท์ เอกซ์ มองดัชนีช่วงนี้ upside จำกัด มีโอกาสชะลอตัวสลับลดความร้อนแรง หลังบวกต่อเนื่องหลายวัน  มองแนวต้าน 1,372 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,350-1,355 จุด ติดตาม GDP สหรัฐ ไตรมาส 2 คืนนี้

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดวันนี้ มองดัชนีช่วงนี้ มี upside จำกัด บริเวณแนวต้าน 1,372 จุด และอาจมีการชะลอตัวสลับลดความร้อนแรง หลังปรับขึ้นมาต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยลบ จากตลาดหุ้นสหรัฐ จากแรงขายหุ้น Nvidia แม้กำไรดีกว่าคาด และ after hour ราคายังลงต่อ เป็นปัจจัยกดดัน ด้านแนวรับอยู่ที่ 1,350-1,355 จุด ประเด็นติดตาม GDP สหรัฐ ไตรมาส 2 คืนนี้

ประเด็นสำคัญ

•    ตลท. ยกยุทธศาสตร์ 3 เสาหลักในงานไทยแลนด์โฟกัส 2024 ได้แก่ ความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น เพิ่มขีดความสามารถของตลาดทุนไทย และ ส่งเสริมความยั่งยืนเพื่อมุ่งสู่การเป็นตลาดทุนสำหรับทุกคน ลุยตั้งกองทุนธุรกิจเงินร่วมลงทุน ศึกษามาตรการลดภาษีลงทุน 
•    ผู้ว่า ธปท. ชี้เงินบาทอยู่ทิศทางแข็งค่า แต่หากเทียบต้นปีถือว่าทรงตัวเคลื่อนไหวใกล้เคียงเพื่อน ซึ่งธปท.ได้ติดตามดูหมดทุกอย่าง ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ย้ำนโยบายการเงินดู 3 ปัจจัย ห่วงเสถียรภาพการเงิน

•    รมว. ท่องเที่ยวฯ เผยสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ล่าสุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 25 ส.ค. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยแล้วกว่า 23 ล้านคน มีรายได้กว่า 1.08 ล้าน ลบ. โดยนักท่องเที่ยวจีนยังครองแชมป์ที่มาเที่ยวไทยมากที่สุด 

•    เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันปรับลง หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลงเพียง 846,000 บาร์เรล ต่ำกว่าตลาดคาด และกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลงด้วย หลังจีนเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

•    Nvidia รายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ขยายตัวเกือบ 2 เท่าตัวสู่ 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่ตลาดคาด หนุนจากอุปสงค์ชิปสำหรับ Data Centre และ AI

•    รมช. คลังเผยว่ามีความมั่นใจว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่อ และมีความเป็นไปได้สูงที่โครงการจะมีการแจกเงิน 1.22 แสนลบ. จากงบฯ เพิ่มเติมปี 2567 ก่อน ขณะที่ต้องติดตามรายละเอียดหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

•    กกพ. ออกหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ระยะที่ 1 โดยกำหนดเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าพลังงานลม 600 เมกะวัตต์ และโซลาร์ฟาร์ม 1,580 เมกะวัตต์ รวมทั้งสิ้น 2,180 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ทั้งหมด 3,632 เมกะวัตต์  

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway Up จากคาดหวังความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อความชัดเจนของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายไตรมาส3 และไตรมาส 4 ส่วน Fund Flow มองว่ายังมีทิศทางไหลเข้าตลาดหุ้นไทยแต่ไม่แรง เนื่องจากภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างไรก็ดี มองเม็ดเงินลงทุนจะมีแนวโน้มไหลออกจากกลุ่มพลังงาน สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ เข้าสู่กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และการแพทย์ ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐคาดยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในระยะถัดไป และดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนคาดยังอ่อนแอ ซึ่งมองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วในระดับนึง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”  

top picks

CPALL: มองกำไร 2H67 มีแนวโน้มที่จะเติบโต YoY โดดเด่นมากกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มพาณิชย์ โดยเกิดจากการเติบโตที่แข็งแกร่งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นทั้งจากธุรกิจ CVS และ CPAXT นอกจากนี้ CPALL ยังเป็นอีกหุ้นที่คาดได้รับประโยชน์จากการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมาของรัฐบาลใหม่ (ซึ่งยังไม่รวมอยู่ในประมาณการของเรา)

GULF: มองกำไรจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่ม: GDP หน่วยที่ 4 (662.5MW, เริ่มเดินเครื่อง ต.ค. 67) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา อีกทั้งยังมีมุมมองเชิงบวกต่อดีลควบรวมระหว่าง GULF กับ INTUCH ขณะที่ Valuation น่าสนใจ ซื้อขาย PER 28 เท่า (-1.0 SD)