PRAPAT โชว์ผลงานงวด 9 เดือนแรกปี 66 เติบโตแข็งแกร่ง กวาดรายได้รวม 794.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.37% ดันกำไรสุทธิ 35.39 ล้านบาท โตกระฉูด 176.92% เดินหน้ารุกสร้างการเติบโตต่อเนื่องรับไฮซีซั่น หนุนผลการดำเนินงานทั้งปี 66 กลับมาทำนิวไฮอีกครั้ง
นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 9.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.67% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 9.34 ล้านบาท และรายได้รวม 266.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.84% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 252.09 ล้านบาท
โดยรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 12.09 ล้านบาท หรือ 5.97% เป็นรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด จำนวน 8.93 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว จำนวน 3.82 ล้านบาท รวมถึงรายได้ผลิตภัณฑ์แม่บ้านและทำความสะอาดพื้น จำนวน 1.15 ล้านบาท และรายได้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน จำนวน 1.72 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท และกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น จำนวน 3.99 ล้านบาท หรือ 8.78% แบ่งเป็นรายได้จากค่าเช่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัวจำนวน 5.73 ล้านบาท และรายได้จากค่าบริการ อันเป็นผลมาจากบริษัทย่อยที่มีการให้เช่าเครื่องล้างจานเพิ่มขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 35.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176.92% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 12.78 ล้านบาท และรายได้รวม 794.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.37% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 688.61 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่ดีดตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว
นายวีระพงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 มีการเติบโตที่โดดเด่น เป็นไปตามกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้ พร้อมคาดการณ์แนวโน้มผลงานของบริษัทในไตรมาส 4 ปี 2566 จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ปี 2566 จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของเศรษฐกิจประเทศ หนุนยอดขายกลุ่มลูกค้าธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหารเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับ การดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ Phu Quoc Hotel Supplies ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งแรกในต่างประเทศบนเกาะฟู้โกว๊ก ประเทศเวียดนาม ที่ PRAPAT ถือหุ้น 100% ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ที่เตรียมเปิดให้บริการช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลการดำเนินงานในโค้งสุดท้ายของปีเติบโตตามกลยุทธ์ที่กำหนด และช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
“การดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ที่เป็นไปตามเป้า และเติบโตสวนกระแส ทำให้บริษัท คาดการณ์ว่า ผลประกอบการปี 2566 จะกลับมาทำ New High อีกครั้ง โดยสามารถสร้างสถิติรายได้และกำไรเติบโตดีกว่าปี 62 ซึ่งเป็นปีก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 อันเป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง” นายวีระพงค์ กล่าว