Market

InnovestX คาด  SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1355-1370 จุด
3 พ.ค. 2567

 

 

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ (3 พ.ค.) บล. อินโนเวสท์  เอกซ์ คาด SET เคลื่อนไหวภายในกรอบ โดยกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1370 และ 1380 จุด ตามลำดับ ขณะที่กรอบล่างมีแนวรับ 1355 จุด ยังรองรับได้ และใช้เป็นจุดติดตาม หากต่ำกว่า จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1350 จุด ประเด็นสำคัญ ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้

 

ประเด็นสำคัญ

• OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP Growth ของโลกปีนี้จากเดิม 2.9% สู่ 3.1% โดยระบุการฟื้นตัว ศก. สหรัฐเป็นหนึ่งในปัจจัยช่วยหนุน ศก. โลก อีกทั้งยังปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐปี 2567 ขึ้นสู่ 2.6% จาก 2.1%

 

• สหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วที่ 2.08 แสนราย ต่ำกว่าตลาดคาด, คำสั่งซื้อภาคโรงงาน มี.ค. เพิ่มขึ้น 1.6%MoM สอดคล้องตลาดคาด และตัวเลขขาดดุลการค้า มี.ค. ลดลง 0.1% สู่ระดับ 6.94 หมื่นล้านเหรียญ สูงกว่าตลาดคาด

 

• ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน เม.ย. ลดลงสู่ 45.7 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22

 

• ราคาหุ้น Apple +2.2%DoD ส่วนราคาหุ้น Qualcomm +9.7%DoD หลังทั้ง 2 บริษัทรายงานกำไรและรายได้ไตรมาสที่ 2 สูงกว่าตลาดคาด

 

• BOI ระบุตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน 1Q67 มีจำนวน 724 โครงการ เพิ่มขึ้น 94%YoY และมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 2.28 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 31%YoY สะท้อนถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นนลท. เพิ่มสูงขึ้น

 

• โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุเตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บ. ทั่ว ปท. ซึ่งจะเป็นการทยอยปรับขึ้น เริ่ม 1 ต.ค. 67 โดย ก. แรงงานจะนำประเด็นการปรับค่าแรงขั้นต่ำเข้าหารือที่ประชุมคกก. ค่าจ้าง 14 พ.ค. 67

 

• Microsoft ประกาศลงทุน Cloud - AI ในมาเลเซีย 8.1 หมื่นลบ. และอินโดนีเซีย 6.3 หมื่นลบ. ส่วนไทยประกาศแผนตั้ง Data Center แต่ยังไม่ทราบเม็ดเงินลงทุน คาดดีลยังไม่จบอยู่ขั้นดำเนินงานเฟสแรก

 

กลยุทธ์การลงทุน  ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะเปราะบางตามตลาดหุ้นโลก จากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้เดิมหลังการประชุมของเฟดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนอัตราการว่างงานของสหรัฐคาดจะทรงตัว ขณะที่การเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector คาดจะมีอัตราการเติบโตต่ำ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

 

 Top  Picks

TIDLOR เลือกหุ้นเด่นของกลุ่มไมโครไฟแนนซ์ เนื่องจากคาดกำไรปี 2567 จะฟื้นตัวแข็งแกร่งสุดที่ 23%YoY พร้อมกับ valuation น่าสนใจที่ PE 13 เท่า ขณะที่ 1Q67 คาดกำไร 1.03 พันลบ. เพิ่มขึ้น 14%QoQ (ECL และ opex ลดลง) และ 7%YoY (NII และ non-NII เพิ่มขึ้น) เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มฯ

 

KCE มองเป็นหุ้นเด่นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จากกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งสุดในกลุ่ม โดยปี 2567 คาดกำไรสุทธิจะเติบโต 32%YoY จากการเติบโตที่ดีของ EV และเริ่มบริหารจัดการต้นทุนได้ดีมากขึ้น ขณะที่ valuation น่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2567 เพียง 21.1 เท่า ซึ่งเท่ากับระดับ -1SD ของ PE mean

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com