สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนสิงหาคม 2567
จากการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่เมือง Jackson Hole เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นาย Jerome Powell เปิดเผยถึงความเชื่อมั่นที่มากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% และถึงเวลาที่ FED ควรจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดคาดว่ามีแนวโน้มที่ FED จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมในเดือนกันยายนนี้ ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสปรับฐานหลังจากปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วงก่อนหน้าโดยเงินทุนมีโอกาสเคลื่อนย้ายไปยังหุ้นและพันธบัตรใน Emerging Market ที่มีพื้นฐานดี
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นอกจากปัจจัยภายนอกที่เอื้อต่อการเติบโตของ SET Index แล้ว ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศยังมีปัจจัยบวกที่ส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน อาทิ การเมืองไทยที่มีความชัดเจนมากขึ้นหลังมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่รายงานออกมาเข้มแข็งกว่าที่นักวิเคราะห์คาด รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาส 2/2567 ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนไทยหันมาใช้การซื้อหุ้นคืนเป็นเครื่องมือในการบริหารสภาพคล่องของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการซื้อหุ้นคืนยังช่วยส่งสัญญาณให้ผู้ลงทุนทราบว่าผู้บริหารมีความมั่นใจว่าราคาหุ้นในปัจจุบันถูกประเมินต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัทและกระตุ้นความต้องการซื้อหุ้นในตลาด อีกทั้งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีสภาพคล่องไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยในกองทุน Thai ESG และความชัดเจนในการออกขายกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่มีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ ซึ่งจะดึงดูดความสนใจผู้ลงทุนและสามารถช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นโดยรวมในตลาดทุน
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า