Market

InnovestX คาด SET ฟื้นจำกัด และอ่อนตัวได้ต่อ
23 พ.ค. 2567

แนวโน้มตลาดวันนี้ (23 พ.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET สร้างสัญญาณลบทางเทคนิค หลังหลุดแนวรับบริเวณ 1377 จุด ลงมา ด้านระยะสั้นมีโอกาสรีบาวด์ได้บ้าง แต่มองการฟื้นตัวถูกจำกัดที่กรอบบนบริเวณแนวต้าน 1380 และ 1385 จุด ตามลำดับ ด้านกรอบล่างมีจุดติดตามบริเวณแนวรับ 1365 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด

 

ประเด็นสำคัญ

• รายงานการประชุม Fed 30 เม.ย.-1 พ.ค. บ่งชี้ว่าคกก. Fed กังวลเงินเฟ้อและไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงมากพอที่จะทำให้ Fed ลด ดบ. ได้หรือไม่ ทำให้ตลาดวิตก Fed อาจตรึง ดบ. ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

 

• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล

 

• CPI ของอังกฤษ เม.ย. +2.3%YoY ชะลอลงจาก+3.2%YoY ใน มี.ค. แต่สูงกว่าคาด ทำให้ตลาดมองลดโอกาสที่ BoE จะลด ดบ. ลงใน มิ.ย.

 

• จีนเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินขนาดใหญ่เป็น 25% ในขณะที่จีนเผชิญกับภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐที่สูงขึ้นอย่างมาก และอาจถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นใน EU

 

• NVIDIA รายงานกำไร 1Q68 (สิ้นสุด เม.ย. 67) ที่ 1.49 หมื่นล้านเหรียญ ดีกว่าตลาดคาด พร้อมประกาศแผนแตกหุ้นบริษัท 10 ต่อ 1 มีผลหลังวันที่ 7 มิ.ย. และเพิ่มการจ่ายเงินปันผล

 

• ครม. อนุมัติออก พ.ร.บ.รายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 ใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ด้าน ก. คลัง เสนอ ครม. 28 พ.ค. ทำดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้น ศก.

 

• นายกฯ นัดประชุม ครม. ศก. นัดแรก 27 พ.ค. หารือแนวทางในการกระตุ้น ศก. หลังตัวเลข GDP ไทย 1Q67 ขยายตัวเพียง 1.5%YoY ซึ่งอยู่ในระดับชะลอตัว โดย ก. คลังมอง ศก. ควรได้รับการกระตุ้นต่อเนื่อง 

 

• FETCO-สมาคม บลจ. ระบุทุกฝ่ายเห็นชอบแพ็กเกจ Tax Saving Fund ใช้เกณฑ์ใกล้เคียง LTF ลงทุนหุ้นไทย 100% เตรียมหารือ รมว.คลัง พิจารณาใน 1-2 สัปดาห์

 

• วันนี้ติดตามศาล รธน. พิจารณารับหรือไม่รับคำร้องของ 40 สว. ยื่นให้วินิจฉัยตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ

 

กลยุทธ์การลงทุน  ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวเคลื่อนไหวในกรอบ หลังขาดปัจจัยชี้นำและสิ้นสุดเทศกาลประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของ บจ. แล้ว ขณะที่ประเด็นในประเทศลุ้นอาจมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่จากความคาดหวังข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุน LTF นอกจากนั้นตัวเลขเศรษฐกิจในต่างประเทศเองก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

 

Top Picks

KCE มองกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งสุดในกลุ่ม ปี 2567 คาดกำไรปกติโตเด่น 44.7%YoY โดย 2Q67 คาดกำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากคำสั่งซื้อค้างส่งของ special grade PCB (HDI) ที่มีมาร์จิ้นสูง ส่วน 3Q67 เข้าสู่ High Season และ 4Q67 คาดอัตรากำไรขั้นต้นทำจุดสูงสุดจากมาตรการลดต้นทุน

 

CPALL มองราคาหุ้นยัง Undervalue ปัจจุบันซื้อขาย PER 67F ระดับ 23 เท่า (-2S.D. ค่าเฉลี่ย PER 10 ปี)สวนทางกำไรที่แข็งแกร่ง โดยปี 2567 คาดมีกำไรปกติ 2.3 หมื่นลบ. โต 28%YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น อีกทั้งมีดอกเบี้ยจ่ายลดลง ซึ่งประมาณการยังไม่รวม upside จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com