บมจ.เอกชัยการแพทย์ ประเมินไตรมาส 4 แนวโน้มอัตราการใช้บริการด้านตรวจสุขภาพและรักษาโรคเฉพาะทางยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จากโรคระบบทางเดินหายใจ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลง ขณะที่ศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) และโรงพยาบาลคูน ช่วยหนุนการเติบโต มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10%
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจ
ไตรมาส 4/2566 เชื่อว่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเชื่อว่าจำนวนคนไข้ที่มาใช้บริการจะยังคงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดโรคระบาดเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ส่งผลทำให้อัตราการเข้ารักษาและตรวจสุขภาพ รวมถึงอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยใน (IPD) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลทำให้อัตราการครองเตียงของโรงพยาบาลพุ่งสูง
ขณะที่คนไข้ที่เข้ามารับคำปรึกษาศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) ยังช่วยสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันมีคนไข้เข้ามาปรึกษาตามเป้าที่วางไว้และมีแนวโน้มเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังจากนี้ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีคนไข้เข้ามารับคำปรึกษาตามเป้าที่ได้วางไว้ 300 เคส ซึ่งน่าจะผลักดันให้รายได้และกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลคูนยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และได้รับความสนใจจากคนไข้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มองโอกาสที่จะขยายการให้บริการ ด้านสุขภาพใหม่ๆ ในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีอยู่อีกมาก โดยล่าสุดได้ร่วมกับ บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH เพื่อลงทุนประกอบธุรกิจโรงพยาบาลคูน อ่าวนาง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ทำให้มั่นใจแนวโน้มรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา
“บริษัทฯ เห็นสัญญาณการเติบโตอย่างโดดเด่นในไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นช่วงสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ Health Care และมีโรคระบาดจากไข้หวัดใหญ่เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยและมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนบริการทางการแพทย์ด้านต่างๆ ในโรงพยาบาลยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง และโรงพยาบาลคูนช่วยหนุน ทำให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานปีนี้ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” นายแพทย์อำนาจกล่าว