บล.พาย มองตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวกเล็กน้อย 0.07% ได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.1% ปัจจัยบวกจากอุปทานตึงตัวจากการที่ซาอุฯประกาศขยายระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต
สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักมากสุดกับปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค. โดยที่พรรคเพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ข้อมูลล่าสุดระบุว่าสามารถรวบรวมเสียงได้ทั้งหมด 314 เสียง แม้จะเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรัฐสภา จำเป็นต้องใช้เสียง ส.ว. อีกราว 61 เสียง หากการโหวดผ่านไปได้ด้วยดีเชื่อว่า SET INDEX มีโอกาสตอบรับเชิงบวกระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม หากโหวดไม่ผ่านก็เชื่อว่ามีผลต่อ SET จำกัด และรอดูการโหวดรอบถัดไป ขณะเดียวกันในวันจันทร์สภาพัฒน์มีกำหนดจะรายงาน GDP 2Q23 Bloomberg Consensus คาดการณ์ 3%YoY ทั้งนี้หากพิจารณาการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย 5 ปีย้อนหลังก่อนเกิด COVID-19 พบว่าเฉลี่ยแล้วขยายตัวได้ราว 3.4%YoY ดังนั้น คาดการณ์ที่ขยายตัว 3%YoY ก็ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วงก่อนหน้า จึงเชื่อว่าภายหลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภค ซึ่งจะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO)
ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของฝั่ง EU ในวันพุธ Bloomberg Consensus ประเมินว่าส่วนใหญ่แล้วประเทศในกลุ่ม EU ดัชนี PMI ต่ำกว่าระดับ 50 ยกเว้น PMI ภาคบริการของเยอรมนีคาดการณ์ที่ 51.5 และภาคบริการของ EU คาดการณ์ที่ 50.6 มองเป็นบวกต่อหุ้นโรงแรมที่มีรายได้หลักจาก EU (MINT) ขณะที่ในวันเดียวกันสหรัฐฯก็มีกำหนดรายงาน PMI ภาคผลิตและบริการ Bloomberg Consensus ประเมินที่ 48.9 , 52.4 ตามลำดับ และสุดท้าย เชื่อตลาดจะรอติดตามการประชุม Jackson Hole (ประชุมประจำปีของ FED) โดยเฉพาะแถลงจากประธาน FED ในวันศุกร์ช่วงเย็นตามเวลาประเทศไทยเกี่ยวกับท่าทีของเงินเฟ้อและทิศทางดอกเบี้ย
สัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1500 – 1540 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเพียงแค่ Trading และเลือกหุ้นที่อิงในประเทศเนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวจากต่างประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) น้ำมัน (PTTEP) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF)
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
ภาพรวมไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรลจากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค
TIDLOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท)
คงคำแนะนำ ซื้อ และมองว่าการปรับลงมาของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยลบด้านผลประกอบการ 2Q23 ที่อ่อนแอไปแล้ว โดยประเมินกำไรปี 2023 ขยายตัว 7% แต่ปี 2024 ประเมินว่า จะขยายตัวได้ถึง 22%