"พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ (PSP)" มั่นใจพร้อมเข้าเทรด 30 ส.ค.นี้ หลังนักลงทุนแห่จองล้นเกินจำนวนที่เสนอขาย 350 ล้านหุ้น ตอกย้ำเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจรของประเทศ เตรียมนำเงินระดมทุนลุยต่อยอดสร้างการเติบโตยั่งยืนระยะยาว
นายสินธุ์ ครองพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP มั่นใจว่า การเข้าซื้อขายวันแรก 30 ส.ค.นี้ นักลงทุนให้การตอบรับอย่างดี หลังเปิดราคาจองซื้อที่ 6.2 บาทได้ หลังช่วงเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 22 - 24 ส.ค. ที่ผ่านมามีความต้องการล้นกว่าจำนวนหุ้นไอพีโอที่เสนอขาย 350 ล้านหุ้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 33 ปี
สำหรับเงินที่ได้จากระดมทุนราว 2,170 ล้านบาท จะนำไปต่อยอยขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนระยะยาวในอนาคต ประกอบด้วย 1.ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อลดด้นทุนการเงิน 2.ลงทุนปรับปรุง Facility ในโรงงานของบริษัท ทำ Digital Transformations พัฒนาประสิทธิภาพการผลิต ให้ควบคุมต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น และ 3.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ส่วนแผนธุรกิจในระยะยาวจะปรับ Portfolio ของสินค้า เน้นไปที่สินค้า Margin สูงหรือมีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างดี ขณะเดียวกันจะมีการผลิตสินค้าใหม่ ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจากใช้ Facility และทีม R&D ของเดิมที่มีอยู่ให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และการขยายธุรกิจผ่านการลงทุน ทั้งการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิม, การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Logistics รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องแต่มีการเติบโตสูงก็จะมองหาโอกาสเพิ่มเติมเช่นกัน
นอกจากนี้ มีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมียอดขายในต่างประเทศที่ 30 ล้านลิตร/ปี แต่ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นในภูมิภาคอาเซียนอยู่ที่ 3,000 ล้านลิตร/ปี จึงมีโอกาสโตอีกมาก โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี สัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 25% จากเดิม 15%
ทั้งนี้ PSP ขายหุ้นไอพีโอ 350 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ราคาเสนอขาย 6.2 บาท โดยพร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 30 ส.ค.นี้ ในหมวดธุรกิจ วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร PSP เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ มีศักยภาพการเติบโตที่ดีจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสามารถใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันทุกมิติในการสร้างการเติบโตไปกับกระแสการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable) และมุ่งเน้นธุรกิจในอนาคตที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (New S-Curve) เพื่อส่งเสริมความสามารถการทำกำไรและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง