แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (24 พ.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ลงมาใกล้แนวรับบริเวณ 1365 จุด ซึ่งอาจมีการดีดขึ้นสลับในระยะสั้นได้บ้าง อย่างไรก็ตาม สัญญาณเทคนิคในภาพรวมที่เป็นลบ ทำให้กรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1375 และ 1380 จุด ตามลำดับ ขณะที่หากหลุดต่ำกว่า 1365 จุด จะเป็นสัญญาณลบต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด
ประเด็นสำคัญ
• ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พ.ค. ปรับขึ้นสู่ระดับ 54.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน จากระดับ 51.3 ในเดือน เม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
• คณะบริหาร ปธน. สหรัฐระบุมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนรอบใหม่มูลค่า 1.8 หมื่นล้านเหรียญจะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 ส.ค. นี้ พุ่งเป้าไปที่ภาคส่วนที่สำคัญต่อ ศก. จีนในอนาคตรวมถึงอุตสาหกรรม EV และชิป
• Tesla แจ้งให้บรรดา supplier ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์นอกเขตแดนจีนและไต้หวันภายในปีหน้า จากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น
• ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตและยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เม.ย.67 อยู่ที่ 104,667 คัน (-11.02%YoY) และ 70,160 คัน (-12.23%YoY) ตามลำดับ อาจปรับลดเป้าผลิตหลังยอดขายในปท. และส่งออกลดลง
• พาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออก เม.ย.67 พลิกขยายตัว 6.8%YoY จากออเดอร์สินค้าอุตสาหกรรม-สินค้าเกษตรราคาดี พร้อมยังคงเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 2567 ไว้ที่ 1-2%
• ศาล รธน. มติ 5:4 รับคำร้อง 40 สว. ให้วินิจฉัยสถานะตำแหน่งนายกฯ แต่ไม่ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ โดยให้ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน
• รมช. คลังสั่งตั้ง คกก. ศึกษาความคุ้มค่าของหุ้นที่ก. คลังถือจำนวน 100 หุ้น มูลค่า 3 หมื่นลบ. จากกลุ่มที่ได้จากยึดทรัพย์หรือนิติเหตุ เตรียมจำหน่ายหุ้นกลุ่มประสิทธิภาพต่ำออกเพื่อบริหารพอร์ตลงทุนให้มีประโยชน์สูงสุดกับภาครัฐ
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวเคลื่อนไหวในกรอบ หลังขาดปัจจัยชี้นำและสิ้นสุดเทศกาลประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของ บจ. แล้ว ขณะที่ประเด็นในประเทศลุ้นอาจมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่จากความคาดหวังข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุน LTF นอกจากนั้นตัวเลขเศรษฐกิจในต่างประเทศเองก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
ADVANC 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคาดค่าใช้จ่ายในการบริหารจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก synergy ด้านต้นทุนเริ่มเห็นผลแล้ว คาดกำไรปี 2567 จะเพิ่มขึ้นสู่ 3.16 หมื่นลบ. (+10.9%YoY)
BCH 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ และคาดจะเห็นการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H67 หนุนจากการเปิดศูนย์การแพทย์เพิ่ม การปรับปรุงโรงพยาบาลแล้วเสร็จ และการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ รพ. ใหม่ valuation ระดับไม่แพง คาดกำไรปี 2567 โต 20%YoY ดีสุดในกลุ่มการแพทย์