Market

InnovestX คาด SET มีแรงหนุนช่วงสั้น แต่ยังฟื้นจำกัด
14 ก.พ. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (14 ก.พ.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ได้แรงหนุนหลังทรัมป์ยังไม่ใช้ภาษีตอบโต้ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า และบาทแข็งเป็นบวกต่อ Fund Flow อย่างไรก็ตาม มองเป็นแรงหนุนช่วงสั้น เนื่องจากแนวโน้มภาพรวมดัชนียังไม่มีสัญญาณกลับตัว ทำให้มองการฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1300-1305 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1260-1270 จุด

 

ประเด็นสำคัญ

• ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค. ที่ 59.0 เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และสูงสุดในรอบ 8 เดือน หนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ช่วยคลายสถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น

 

• BOI เผยมาสด้ามอเตอร์ประกาศแผนขยายการลงทุนในไทยมูลค่ากว่า 5 พันลบ. โดยใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรถยนต์ B-SUV แบบ MHEV ซึ่งเป็นรถยนต์แบบผสมที่ใช้เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตั้งเป้าผลิต 1 แสนคันต่อปี เพื่อส่งออกไปทั่วโลก

 

• รมว.คลังเผยกำลังทบทวนเกณฑ์การเสียภาษีเงินได้บุคคลที่มีเงินได้จากต่างประเทศและนำเข้ามาในไทยใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสร้างแรงจูงใจให้นำเงินลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาในประเทศ

 

• รมว.คลังเผยว่าการปรับปรุงหลักเกณฑ์ LTF อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายและเงื่อนไขในการโยกเงิน LTF ที่ครบอายุสู่กองทุน ThaiESG จัดตั้งใหม่ และคาดจะเห็นความชัดเจนภายในไม่เกิน ก.ย. 2568

 

• รมว. คลังเผยกำลังจัดทำมาตรการช่วยเหลืออุตฯ ยานยนต์กับ บ.ส.ย. ให้ช่วยค้ำประกันสินเชื่อรถเชิงพาณิชย์ โดยจะปรับสัดส่วนค้ำประกันเพิ่มขึ้นจาก 30% คาดจะสามารถนำเสนอครม. ได้ภายใน 3-4 เดือน

 

• ททท. คาดการท่องเที่ยวไทย ก.พ. 2568 เติบโตขึ้น และจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 16.45 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2% และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวราว 81,250 ลบ. เพิ่มขึ้น 8%

 

• ปธน. ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 1 เม.ย. โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจและการค้าศึกษาเพิ่มเติม

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside จำกัด โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1320 จุด โดยแม้ปัจจัยต่างประเทศจะมีแรงหนุนจากการคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าระยะสั้นและผลประกอบการนอกกลุ่มการเงินของ บจ. สหรัฐฯ ที่คาดยังออกมาแข็งแกร่ง แต่ในประเทศยังขาดปัจจัยบวกใหม่กระตุ้นบรรยากาศลงทุน โดยคาดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยัง Underperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

Daily top picks

GPSC: มองช่วงสั้นมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจากการปรับลงของราคาก๊าซฯ, Bond Yield และเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ราคาหุ้นปรับลงช่วงที่ผ่านมามองรับรู้ประเด็นลบไปมากแล้ว ปัจจุบันจึงเป็นโอกาสสะสมเนื่องจากยังเห็นปัจจัยหนุน ได้แก่ การเพิ่มกำลังการผลิต, การได้รับการคัดเลือกโครงการพลังงานทดแทนระยะที่ 2 รอบแรก, ไม่มีผลกระทบจากการบังคับใช้ภาษีขั้นต่ำสากล

 

TIDLOR: มองผลประกอบการจะฟื้นตัวได้ดีในปี 2568-2569 โดยได้แรงหนุนจาก Credit Cost ที่ลดลง การเติบโตของสินเชื่อและ Non-NII ในระดับปานกลาง และการขยายตัวของ NIM อีกทั้งเลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มเงินทุน เนื่องจากมี Valuation ที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com