Market

XSPRING ปักธงปี 2568 ทุกกลุ่มธุรกิจตั้งเป้าโต 20%  ท่ามกลางความผันผวน  คาดรายได้รวมแตะ 1,100 ล้านบาท 
12 มี.ค. 2568

XSPRING เดินเกมรุก สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง ตั้งเป้ารายได้รวม 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน  ลุยขยายฐานลูกค้า Private Credit  หนุนพอร์ตสินเชื่อเติบโต เสิร์ฟบริการครบวงจรเชื่อมโลกทุกการลงทุน พร้อมใช้ Ecosystem  ของกลุ่มบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านแอปฯ 

 

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)  หรือ “XPG” เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา XSPRING ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ด้วยความท้าทายในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และมีความเปราะบางสูง แต่บริษัทยังคงรักษาระดับการเติบโตของผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 34% อยู่ที่ 911 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากปีก่อนหน้า โดยรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่ธุรกิจสินเชื่อสามารถขยายตัวได้ดี หนุนพอร์ตสินเชื่อเติบโตแตะระดับ 8,000 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงรายได้จากเงินลงทุนและเงินปันผลเพิ่มขึ้น 

 

“ส่วนการกลับมาจ่ายเงินปันผล บริษัท อาจจะเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาเรื่องนโยบายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น XSPRING ”

 

สำหรับแนวโน้มปี 2568 บริษัทคงมุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้แนวคิด Resilient Growth in a Challenging Landscape ท่ามกลางความผันผวนของตลาด ด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนและนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน เพื่อเพิ่มรายได้ที่มั่นคง  โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวม 1,100 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 20% เติบโตด้วยธุรกิจสินเชื่อ รุกขยายฐานลูกค้า Private Credit พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ เน้นใช้ Ecosystem ของกลุ่มบริษัทที่มีบริการทางการเงินอย่างครบวงจร ทั้งกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เข้ามาต่อยอดความต้องการทางการเงินและการสร้างความมั่งคั่งของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 


โดยปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของบริษัทอยู่ที่ราว 8,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจวาณิชธนกิจ พร้อมสนับสนุนลูกค้าธุรกิจระดมเงินทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อนักลงทุน (IPO) และการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) ซึ่งมีแผนในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลราว 3 - 5 โครงการในปีนี้ 

 

ในส่วนของบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการสร้างความมั่งคั่ง ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ตั้งเป้าขยายธุรกิจกองทุนและธุรกิจนายหน้าจำหน่ายกองทุนรวม(LBDU)  หนุนสินทรัพย์ภายใต้การจัดการแตะระดับ 15,000 ล้านบาท โดยมีแผนออกกองทุนใหม่อย่างต่อเนื่องในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาให้ครบทุกมิติ ประเดิมด้วยการเปิดขาย Term Funds  (X-FIXED6M1R)  ในวันที่ 10 มีนาคม 2568 พร้อมกันนี้ บริษัทได้เริ่มให้บริการ 

 

ทั้งนี้  ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวบริการ Private Credit เชื่อมโยงนักลงทุน Wealth กับลูกค้าธุรกิจ ช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการสร้างโอกาสทางการเงินที่มั่นคง อีกทั้งบริษัทยังได้เสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเควาลอน (KAVALON Token) ซึ่งเป็นโทเคนที่มีลักษณะคล้ายหนี้ (Debt-liked Investment Token)  ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมโทเคนดิจิทัลที่ได้เปิดให้มีการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าแค่ตัวเงิน โดยสามารถระดมทุนได้ครบ 400 ล้านบาทให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ก่อนกำหนด 

 

นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าลงทุนใน บริษัท กินดื่ม จำกัด (KINDUEM) ซึ่งประกอบธุรกิจ Food & Beverage ภายใต้แบรนด์ BEANS Coffee Roasters, AROI, DEAN & DELUCA, REES, THAI THAI EATERY และ  UMAMI JAPANESE IZAKAYA  เพื่อขยายแหล่งรายได้จากธุรกิจที่มีศักยภาพ และกระจายความเสี่ยง สะท้อนศักยภาพการปรับตัวในภาวะตลาดการเงินที่มีความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ


“XSpring Application” แพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์ด้านการลงทุนให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น แอปพลิเคชันที่ช่วยเชื่อมต่อและอำนวยความสะดวกในทุก ๆ การลงทุนของนักลงทุน ให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพ
และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ

 

“แม้ในปี 2568 ตลาดจะเต็มไปด้วยความท้าทายและมีความซับซ้อนมากขึ้น จากหลายปัจจัยทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่ค่อนข้างเปราะบาง เรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้า เราก็พร้อมเดินหน้าธุรกิจอย่างมั่นคง ขยายธุรกิจทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำบทบาทผู้นำของตัวกลางเชื่อมโยงภาคธุรกิจที่ต้องการเงิน 
และนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน ผ่านบริการทางการเงินที่ครบวงจร สะท้อนศักยภาพในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้า” นางสาววรางคณากล่าวสรุป 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com