Market

MTC แกร่ง! คุมเอ็นพีแอลอยู่หมัดคงเป้าที่ระดับ 3.20% ปักหมุดพอร์ตสินเชื่อปี 67 เติบโต 15-20% แตะ 1.7 แสนลบ.
12 ก.ค. 2567

"เมืองไทย แคปปิตอล" ลั่น!คุมเอ็นพีแอลอยู่หมัด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่ง ประกาศลดหนี้เอ็นพีแอลปีนี้แค่ 3.20% เน้นกลยุทธ์ปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน  วงเงินสินเชื่อไม่สูง ปักหมุดพอร์ตสินเชื่อปี 67 เติบโต 15-20% แตะ 1.70 แสนล้านบาท เดินหน้สู่ไมโครไฟแนนซ์ระดับโลก

 

 นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า ท่ามกลางปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และหนี้ภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เนื่องจากบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง โดยเน้นสินเชื่อที่มีหลักประกัน และวงเงินสินเชื่อไม่สูง พร้อมกับมีกระบวนการประเมินที่เข้มงวด รัดกุม และมีการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด จึงป้องกันความเสี่ยงเรื่องเอ็นพีแอลได้เป็นอย่างดี 

 

  ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรักษาเอ็นพีแอลที่ระดับ 3.20% ภายใต้ระบบการเก็บหนี้ที่พัฒนาให้ดีขึ้นตั้งแต่กลางปี 2566 จนถึงปัจจุบันที่ทำให้ตัวเลขเอ็นพีแอลลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขเอ็นพีแอลได้ปรับลดลงสู่ระดับ 3.03% ในไตรมาส 1/2567 จึงทำให้มั่นใจว่าภาพรวมตลอดปี 2567 จะรักษาเป้าหมายตัวเลขเอ็นพีแอลไว้ได้อย่างแน่นอน

 

  สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยพอร์ตสินเชื่อจะมีอัตราการเติบโต 15-20% หรือแตะระดับ 170,000 ล้านบาท ผลจากการกระจายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสาขาที่คาดว่าจะมีอยู่กว่า 8,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลดังกล่าวควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีแผนการจัดหาแหล่งเงินทุนผ่านการกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งต่างประเทศและในประเทศ ตลอดจนการระดมทุนเสนอขายหุ้นกู้ เป็นต้น 

 

  ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่มีความรับผิดชอบและเป็นธรรม มุ่งสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจ เติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน โดยยกระดับการบริการสินเชื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับโลก (World-Class Thai Microfinance) สอดรับความร่วมมือองค์การระหว่างประเทศหลายสถาบัน อาทิเช่น ความร่วมมือรัฐบาลญี่ปุ่น (JICA) และรัฐบาลเยอรมัน (KFW DEG) เพื่อระดมทรัพยากรทางการเงินเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เคารพในสิทธิ รักษาผลประโยชน์ และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด 

 

  “บริษัทฯ เน้นปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์อย่างรัดกุม โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Generative AI เพื่อพัฒนาการบริการในมาตรฐานระดับสากล ควบคู่กับการบริหารจัดการเอ็นพีแอลที่เข้มงวดด้วยเป้าหมายไม่เกิน 3.20% ในปีนี้ และมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ภูมิใจที่ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA สะท้อนการเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่มีความรับผิดชอบและเป็นธรรม มุ่งสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจ เติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน” นายปริทัศน์ กล่าว

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com