"ดร.วรวัฒน์" บิ๊กบอส บมจ.ไทย โคโคนัท ย้ำความมั่นใจผู้ถือหุ้น ควักกระเป๋า 13.62 ล้าน เก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่ม สะท้อนความตั้งใจจริง มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เติบโต เป็นผู้นำ ด้านกะทิ และน้ำมะพร้าวรายใหญ่ของเมืองไทย และอยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์สุขภาพทั่วโลกที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน
ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ผู้ผลิต-จำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า ตนได้เข้าซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่มจำนวน 1,750,000 หุ้น ที่ราคา 7.75-7.79 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินลงทุน 13,627,750 บาท โดยทำธุรกรรม 2 ครั้ง โดยเข้าซื้อเมื่อวันที่ 15 และ 16 พฤศจิกายน 2566 ส่งผลให้จำนวนหุ้นที่ถือครองหลังวันทำรายการมีจำนวน 331,750,000 หุ้น เนื่องจากมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และตอกย้ำผู้ถือหุ้นให้มั่นใจได้ว่า COCOCO ถือเป็น ผู้นำ ด้านกะทิ และน้ำมะพร้าวรายใหญ่ของเมืองไทย และยังอยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์สุขภาพทั่วโลกที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน
“ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจมายาวนาน โดย COCOCO เปิดดำเนินการมาร่วม 15 ปี ผมเชื่อมั่นในธุรกิจ เรายืนหยัดพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว ซึ่งเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรและส่งออก ทำให้เราสามารถที่จะนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาเมืองไทย เข้ามาเลี้ยงเกษตรกรชาวไทย ซึ่ง COCOCO มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด และส่วนตัวของผมเองก็ได้สั่งสมประสบการณ์มาตลอดช่วงชีวิต ทำให้มีความมั่นใจในธุรกิจเป็นทวีคูณ ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นของ COCOCO เพิ่มในครั้งนี้ ผมมีความตั้งใจจริงและมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืน” ดร.วรวัฒน์ กล่าว
ดร.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ภายหลังบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 นั้น ตนเองและทีมงาน มีโอกาสได้เดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าระดับโลก รวมถึงเข้าพบปะลูกค้าในกลุ่มประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจากการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงระยะเวลาดังกล่าว พบว่า มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งใหม่และเก่าอย่างล้นหลาม จึงจำเป็นต้องขยายกำลังการผลิตให้รองรับกับยอดขายที่เติบโตขึ้น ทั้งนี้ ได้เสนอคณะกรรมการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ได้รับมติอนุมัติการลงทุนโครงการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ และ/หรือเครื่องดื่มน้ำผลไม้ประเภทอัดแก๊ส บรรจุขวด PET โดยกำหนดมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 650 ล้านบาท