แนวโน้มตลาดวันนี้(24 เม.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET การฟื้นตัวมีอัตราเร่งลดลง และกรอบบนเริ่มถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1365 และ 1370 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1350 จุด หากต่ำกว่า เริ่มเป็นสัญญาณลบและมีแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด ทั้งนี้ สัญญาณทางเทคนิคในภาพรวมยังเป็นลบ ทำให้ยังต้องระมัดระวังด้าน downside ของดัชนี
ประเด็นสำคัญ
• ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ เม.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่พ.ย. 66
• FactSet ระบุการเก็บเกี่ยวพืชผลได้เป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ทำให้ราคาอาหารปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวสาลีลดลงเกือบ10%YoY ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวโพดลดลงราว 6%YoY
• ยอดขาย iPhone ในจีน 1Q67 ลดลง 19.1% ขณะที่คู่แข่งหลักในจีนอย่างหัวเว่ยเติบโตขึ้น 69.1% ส่งสัญญาณถึงภัยคุกคามต่อส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิ้ลในจีน
• Tesla รายงาน 1Q67 มีรายได้รวม 21,301 ล้านเหรียญ ลดลง 9%YoY และกำไรต่อหุ้น(EPS) 0.34 เหรียญต่อหุ้น ลดลง 55%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด
• วานนี้นายกฯ และทีม รมต. ทุกพรรคแถลงร่วมผลักดันดิจิทัลวอลเล็ต หลัง ครม. เห็นชอบหลักเกณฑ์ 10 ข้อ เพื่อกระตุ้น ศก. กระจายการใช้จ่ายร้านค้า 878 อำเภอทั่ว ปท. ยืนยัน 4Q67 ปชช. ได้รับเงิน 1 หมื่นบ.
• ครม. มีมติอนุมัติยกเว้น VISA ให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติรัสเซีย เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว พำนักในไทยได้ถึง 60 วันตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-31 ก.ค. 67 คาดจะช่วยเพิ่มรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในภาวะเปราะบางและผันผวน จากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เดิม ประกอบกับ การเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ1Q67 ที่คาดจะมีอัตราการเติบโตต่ำ แม้ว่าทิศทางดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐจะมีสัญญาณฟื้นตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
ERW มองผลประกอบการจะได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวไทยที่เติบโตมากขึ้น โดย1Q67 คาดกำไรปกติทำสถิติสูงสุดที่ 245 ลบ. จาก RevPar ที่แข็งแกร่งขึ้น ด้วยแรงหนุนจาก ARR ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก อีกทั้งราคาหุ้นซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2567 ที่ 11 เท่า หรือเกือบ -1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต
KCE มองเป็นหุ้นเด่นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จากกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งสุดในกลุ่มโดยปี 2567 คาดกำไรสุทธิจะเติบโต 32%YoY จากการเติบโตที่ดีของ EV และเริ่มบริหารจัดการต้นทุนได้ดีมากขึ้น ขณะที่ valuation น่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2567 เพียง 21.1 เท่า ซึ่งเท่ากับระดับ -1SD ของ PE mean