PPS เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 ลุ้นคว้างานใหม่ภาครัฐ เดินหน้ารับงานบริหารจัดการโครงการใน จ.ภูเก็ต รอรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-การลงทุนปล่อยเมกะโปรเจกต์ เตรียมพร้อมประมูลงานภาครัฐ-เอกชนต่อเนื่อง วางกลยุทธ์สร้างรายได้ผ่าน PPS Academy ยังคงมุ่งนำเทคโนโลยีควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความสามารถทำกำไร
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทมีแนวโน้มได้รับงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารและควบคุมโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ อีกทั้งภาพรวมธุรกิจก่อสร้างส่งสัญญาณบวกใน จ. ภูเก็ต กับแผนขยายงานในเขตพื้นที่จังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โรงพยาบาล ค้าปลีก และยังมีการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเอื้อต่อการปิดการขายของโครงการแหลมยามู (Headland Cape Yamu) มากขึ้น และเป็นการขยายช่องทางการรับงานที่ปรึกษาโครงการในจังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้ ภาพรวมภาคธุรกิจก่อสร้างอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่กับนโยบายเร่งการเบิกจ่ายในโครงการที่ดำเนินงานอยู่ และการเปิดให้ประมูลงานใหม่ในโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมกัน โดยบริษัทมีความพร้อมเพื่อรอเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทางบริษัทวางกลยุทธ์สำคัญที่สามารถสร้างรายได้ และเกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญของบริษัทโดยตรง คือ การเปิดสถาบันอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการโครงการ และนำเทคโนโลยีมาร่วมดูแลในโครงการ ภายใต้ชื่อ PPS Academy เป็นการยกระดับการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมก่อสร้างมีทักษะ และพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันธุรกิจนี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน
อีกทั้ง PPS ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มความสามารถทำกำไร รักษาต้นทุนการดำเนินงานให้สอดรับกับสถานการณ์ของธุรกิจ ด้วยการนำเทคโนโลยี KANNA เข้ามาควบคุม และบริหารงานก่อสร้าง ช่วยลดระยะเวลาทำงานให้สั้นลง ลดต้นทุนการทำงานของพนักงาน ลดความสิ้นเปลืองทรัพยากรจากการใช้เอกสาร ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทมีแผนนำเทคโนโลยีด้านการก่อสร้างอื่นๆ เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้วยเช่นกัน
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีรายได้รวม 185.94 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 207.36 ล้านบาท จำนวน 21.42 ล้านบาท หรือ 10.33% และมีขาดทุนสุทธิ 11.54 ล้านบาท ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 บริษัทมีรายได้รวม 87.13 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 105.16 ล้านบาท จำนวน 18.03 ล้านบาท หรือลดลง 17.15% และมีขาดทุนสุทธิ 9.90 ล้านบาท ขณะที่มูลค่างานในมือ (Backlog) ณ 30 มิ.ย. 2567 อยู่ที่ 534.95 ล้านบาท