VGI รายงานผลประกอบการปี 2566/67 สร้างรายได้ 4,813 ล้านบาท ลดลง 1.2% YoY
บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ ("VGI") ผู้นำการตลาด Offline-to-Online ("O2O") โซลูชั่นส์ ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย แจ้งผลประกอบการปี 2566/67 สร้างรายได้ 4,813 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า โดยธุรกิจสื่อโฆษณาและธุรกิจการให้บริการด้านดิจิทัลมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 และร้อยละ 8.5 จากปีก่อนหน้า ตามลำดับ ในขณะที่ ธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้ลดลงร้อยละ 23.1 จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการปี 2566/67 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3,489 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม รวมทั้งการบันทึกขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนใน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“KEX”) การบันทึกการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“JMart”) และบริษัทร่วมอื่น ๆ
คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงาน ปี 2566/67 ถึงแม้บริษัทฯ จะได้รับส่วนแบ่งขาดทุนจากรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ อันมาจากผลการดำเนินงานที่ขาดทุนของ KEX และส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจาก JMart แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจสื่อโฆษณา ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีกำไรเพิ่มขึ้นจากอัตราใช้สื่อโฆษณาในสื่อทุกประเภท ส่งผลทำให้รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 จากปีก่อนหน้า มีมูลค่า 2,105 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายพื้นที่สื่อโฆษณาไปยังเครือข่ายรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ทำให้มีพื้นที่สื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 72 ขบวน และเปิดตัวแพ็กเกจสื่อใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘EXIT package LED’ สื่อบริเวณหน้าร้าน Turtle เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านสะดวกซื้อ อีกทั้งยังเพิ่มจำนวนสื่อสตรีทเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งใหม่ ๆ ได้แก่ สถานีเซนต์หลุยส์ และเพลินจิต ประกอบด้วยหน้าจอ Digital และ Light Boxes ทั้งสิ้น 28 ป้าย ส่วนธุรกิจบริการด้านดิจิทัล บริษัทฯ ได้ขายสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท แรบบิท ไลน์ เพย์ จำกัด (RLP)
เนื่องจากการแข่งขันในตลาดการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งเสริมการใช้บัตรแรบบิทด้วยโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษร่วมกับร้านค้า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบัตรแรบบิทมีจำนวนเปิดใช้งานทั้งสิ้น 17.8 ล้านใบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 จาก 16.2 ล้านใบ นอกจากนี้ในปี 2566/67 RCare สามารถขายกรมธรรม์ประกันภัยได้จำนวนทั้งสิ้น 200,330 กรมธรรม์ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวนทั้งสิ้น 2,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังขยายธุรกิจสู่ตลาดเวียดนามและสิงคโปร์ โดยนำโมเดลธุรกิจในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จนี้ ไปใช้ในการให้บริการเปรียบเทียบประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินออนไลน์อีกด้วย ส่วนของ RCash มียอดปล่อยเงินกู้จำนวนทั้งสิ้น 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 558 จากปีก่อนหน้า ด้านธุรกิจการจัดจำหน่าย ปัจจุบัน Turtle มีสาขารวมทั้งสิ้น 22 สาขา ตั้งอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และร้าน SuperRich Turtle จำนวน 7 สาขาบนสถานีรถไฟฟ้า
สุดท้ายนี้ ทิศทางการดำเนินงานในปี 2567/68 VGI มุ่งเน้นกลยุทธ์ในการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจร่วมที่มีอยู่มากกว่ามองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ โดยวางงบประมาณค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะถูกใช้ในธุรกิจสื่อโฆษณาร้อยละ 50 ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลร้อยละ 20 และอีกร้อยละ 30 จะลงทุนในธุรกิจการจัดจำหน่าย ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่ารายได้ในปี 2567/68 จะมีการการเติบโตจากแรงสนับสนุนของความต้องการในสินค้าและบริการของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่มีเป็นบวก โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 6,000 ล้านบาทถึง 6,500 ล้านบาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติม