แบงก์กรุงศรี เปิดงบไตรมาส 2 กำไร 8,208.92 ล้านบาท ลดลง 2.56% ส่วนครึ่งปี กำไรลด 7.89% เหลือ 15,751.54 ล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่มจากกลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และเงินให้สินเชื่อรายย่อยลดลง
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 /2567 มีกำไรสุทธิ 8,208.92 ล้านบาท ลดลง 2.56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 8,425.29 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2567 มีกำไร 15,751.54 ล้านบาท ลดลง 7.89% เมื่อเทียบกับงวดกันปีก่อน ที่มีกำไร 17,101.58 ล้านบาท
กำไรที่ลดลงมาจาก การเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากการตั้งสํารองด้วยความรอบคอบระมัดระวังโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในประเทศ
ประกอบกับเงินให้สินเชื่อรวมลดลง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่จํานวน 1,991,931 ล้านบาท ลดลงจํานวน 25,273 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.3 จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยสาเหตุหลักมาจากการลดลงของสินเชื่อเพื่อรายย่อยในประเทศ
เงินรับฝากเพิ่มขึ้นจํานวน 76,787 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากเงินรับฝากประจํา
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ร้อยละ 3.05เทียบกับร้อยละ 2.53 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566ขณะที่กรุงศรีมีการตั้งสํารองที่รอบคอบระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนการตั้งสํารองต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ระดับ 243 เบสิสพอยท์ โดยอัตราส่วนเงินสํารองต่อสินเชื่
อด้อยคุณภาพอยู่ที่ร้อยละ 128.8เทียบกับร้อยละ 149.1 ณ สิ้นเดือน ธันวาคม 2566
อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ร้อยละ 17.87เทียบกับร้อยละ 18.24 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566