PANEL ผู้นำด้านประตูห้องผ่าตัดอัตโนมัติ ผนังบานเลื่อนห้องประชุมและระบบทางเข้า-ออกอัจฉริยะ เตรียมระดมทุน ขาย IPO 50 ล้านหุ้น ขยายธุรกิจแบบครบวงจร รองรับธุรกิจโรงพยาบาลและท่องเที่ยว โรงแรมเติบโตต่อเนื่อง
นางจูเลีย เพ็ชญไพศิษฎ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PANEL กล่าวว่า PANEL เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประตูห้องผ่าตัด ห้อง ICU ห้องรังสีวิทยา ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และสปป.ลาว ให้กับ ประตูอัตโนมัติระดับโลกแบรนด์ MANUSA จากประเทศสเปน มาตลอด 24 ปี ซึ่งประตูอัตโนมัติ MANUSA ได้รับความเชื่อมั่นจากโรงพยาบาลชั้นนำจำนวนมาก อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นต้น
นอกจากนี้ PANEL ยังมีผลิตภัณฑ์หลัก สำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม และสำนักงาน คือ ผนังเคลื่อนที่ อัตโนมัติ โดยบริษัทฯ ได้ผลิตและติดตั้งผนังเคลื่อนที่ในห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงให้กับโรงแรมชั้นนำมากว่า 20 ปี อาทิ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี, โรงแรมเซนทารา เซ็นทรัลเวิลด์ โรงแรมแชงกรีล่า และหอประชุม พาร์ค พารากอน สยามพารากอน เป็นต้น รวมถึงให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร”
PANEL ได้วางแผนที่จะระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจครั้งสำคัญ ด้วยการสร้างโรงงานผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตได้กว่า 4 เท่าตัว เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของลูกค้าทั้งกลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มโรงแรม เนื่องจากอุตสาหกรรมโรงพยาบาลและท่องเที่ยวมีการเติบโตสูง และเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืน จากปัจจัยหลักคือประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัย จึงมีความต้องการรักษาพยาบาลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ประเทศไทยเป็น Medical Hub มีชาวต่างชาติเข้ามารักษาตัวจำนวนมาก ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมขยายตัวสูง มีการก่อสร้างโรงแรมใหม่จำนวนมาก รวมถึงโรงแรมเก่า มีการ Renovate ปรับปรุง เพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 23 ล้านคนต่อปีและคนไทยกว่า 65 ล้านคน จึงทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตอย่างสูง
นายสมศักดิ์ พริกบุญจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PANEL เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 มีรายได้ 88 ล้านบาท และ 70 ล้านบาทในปี 2564 ลดลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด และปี 2565 มีรายได้รวม 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59 % ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาทในปี 2563, 11 ล้านบาทในปี 2564 ลดลงจากโควิด-19 และ มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาทในปี 2565 เพิ่มขึ้น 45% ในส่วนของงวด 9 เดือน สิ้นสุด 30 กันยายนปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 90.5 ล้านบาท เติบโต 59% และมีกำไรสุทธิ 10.4 ล้านบาท เติบโต 333% จากช่วง 9 เดือนแรกปีก่อนที่มีรายได้รวม 57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2.4 ล้านบาทโดยล่าสุดรายได้ประมาณ 60% มาจากอุตสาหกรรมโรงพยาบาลและ 40% มาจากธุรกิจตกแต่งโรงแรมและสำนักงาน
บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PANEL มีทุนจดทะเบียน 95 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 190,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (par) 0.50 บาทต่อหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 50,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.32 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
นางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า PANEL มีจุดเด่นหลายประการ อาทิ การเป็นผู้นำในตลาดเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลและโรงแรม มากว่า 30 ปี ซึ่งทั้ง 2 อุตสาหกรรมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ มีความสัมพันธ์และชื่อเสียงที่ดี ในกลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม รวมถึง สถาปนิก นักออกแบบภายใน วิศวกร และ บริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ และเป็นธุรกิจเฉพาะที่คู่แข่งน้อยราย จึงมีโอกาสที่จะเติบโตสูงตามการขยายตัวของอุตสาหกรรม
PANEL จึงเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 50 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินไปสร้างโรงงานขนาดใหญ่แห่งใหม่ เป็นเงินทุนหมุนเวียน และคืนหนี้ธนาคาร โดยล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ของ PANEL เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ด้าน นายเอกจักร บัวหภักดี ตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า PANEL เป็นหุ้นขนาดเล็กที่มีอนาคตไกล มีโอกาสเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม เนื่องจาก PANEL มีสถานะการเงินที่ดี มีอัตราหนี้สินต่อทุนเพียง 0.6 เท่า ในขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงประมาณ 40% และมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 15 % - 19% สำหรับปี 2563 – 2565 ปัจจัยที่สำคัญคือ บริษัทฯอยู่ในอุตสาหกรรมโรงพยาบาลและโรงแรม ซึ่งกำลังขยายตัวสูง มีการก่อสร้างโรงพยาบาลและโรงแรมขนาดใหญ่จำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่บริษัทฯซึ่งมีแบ็คลอกในมือจำนวนมาก จะได้ประโยชน์โดยตรง ผมคาดว่า บริษัทฯสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 1 ปี 2567 นี้