แนวโน้มตลาดวันนี้ (10 ก.พ.) บล. อินฌนเวสท์ เอกซ์ มองการฟื้นตัวของดัชนียังถูกจำกัด เนื่องจากความกังวลสงครามการค้ายังกดดันดัชนี โดยล่าสุดทรัมป์เตรียมเก็บภาษีสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% และยังเตรียมแผนเก็บภาษีประเทศที่ถูกมองว่าเอาเปรียบด้านการค้าต่อสหรัฐฯ ด้านกรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1290-1300 ส่วนกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1260-1270 จุด
ประเด็นสำคัญ
• ปธน. ทรัมป์ เผยจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% จากทุกประเทศในวันนี้ แต่ยังไม่ระบุวันบังคับใช้ อีกทั้งจะประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ภายในสัปดาห์นี้ โดยจะนำมาใช้กับประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
• จีนเผย CPI ม.ค. เพิ่มขึ้น 0.5%YoY สูงสุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าตลาดคาด และ PPI ม.ค. หดตัว 2.3%YoY สูงกว่าตลาดคาด ส่วนการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.43 แสน ต่ำกว่าตลาดคาด
• รมช.คลัง เผยบอร์ดกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจได้พิจารณา 5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ 1. เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน 2.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินหมื่นเฟสสาม 3.เร่งรัดลงทุนโครงการบ้านเพื่อคนไทย 4.กระตุ้นการท่องเที่ยว และ 5. เร่งรัดโครงการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งคาดจะผลักดันให้ GDP ไทยในปีนี้เติบโตได้ถึง 3.5%
• สศอ. เผย 5 อุตสาหกรรมเด่นปี 2568 ที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง นำโดยอาหารและเครื่องดื่ม,ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม, บรรจุภัณฑ์, เครื่องใช้ไฟฟ้า และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) แนะเร่งปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน
• กทพ. เผยรายได้ปี 2567 แตะ 1.9 หมื่นลบ. กำไรโต 3% กางแผนลงทุนปี 2568 เดินหน้า 2 โครงการเรือธง ทางด่วนภูเก็ตและทางด่วนเกษตร เม็ดเงินกว่า 3 หมื่นลบ. คาดเสนอ ครม. 1Q68 และเปิดประมูลทันที ได้ตัวผู้รับเหมา ต.ค. นี้ ลุยก่อสร้างปี 2569 แล้วเสร็จเปิดบริการปี 2572
• สกพอ. MOU ร่วมกระทรวงพาณิชย์จีนผนึกกำลังส่งเสริมการลงทุนด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัล ใน EEC ตลอดจนยกระดับมาตรฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของทั้งสองฝ่าย
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวได้ แต่ Upside จำกัด มีแนวต้านสำคัญที่ 1320 แนะนำลงทุนใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้น Earning Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนกำไร 4Q67-1Q68 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
2. หุ้น Real Sector พื้นฐานดี ใน SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุนและมี Downside Risk จำกัดเนื่องจากมีจุดแข็ง 1) ปี 2568 คาดกำไรสามารถเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง สภาพคล่องสูง มีโอกาสซื้อหุ้นคืน (มี PBV < 1 เท่า) 3) Valuation ไม่แพง ซื้อขาย PER และ PBV 2568F ต่ำกว่า -1SD และ 4) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อย 5% แนะนำ BCP AP PTT TU SPALI
3. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค เช่น Easy E-Receipt และแจกเงินหมื่นเฟส 2 แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO TNP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT AWC ERW AOT)
4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดสัปดาห์หน้าจะประกาศงบ 4Q67 และกำไรเติบโต YoY และ QoQ แนะนำ AOT MINT และ 2) หุ้นที่คาดมีโอกาสเพิ่มอัตราจ่ายปันผล หรือ ซื้อหุ้นคืน เนื่องจากมี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า และมีสภาพคล่องสูง เลือก PTT KBANK BBL KTB
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside จำกัด โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1320 จุด โดยแม้ปัจจัยต่างประเทศจะมีแรงหนุนจากการคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าระยะสั้นและผลประกอบการนอกกลุ่มการเงินของ บจ. สหรัฐฯ ที่คาดยังออกมาแข็งแกร่ง แต่ในประเทศยังขาดปัจจัยบวกใหม่กระตุ้นบรรยากาศลงทุน โดยคาดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยัง Underperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
Daily top picks
ADVANC: 4Q67 มีกำไรสุทธิ 9.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 32.2%YoY และ 5.4%QoQ สูงกว่าตลาดคาด ขณะที่ 1Q68 คาดกำไรยังเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ หนุนให้ปี 2568 คาดมีกำไร 38.5 พันลบ. เติบโตต่ออีก 10.5%YoY อีกทั้งมองมีโอกาสเพิ่มกำไรจากการประมูลใบอนุญาตที่กำลังจะมาถึง วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรในราคาไม่เกินหุ้นละ 285 บาท
CRC: 4Q67 คาดกำไรปกติจะทำจุดสูงสุดของปี 2567 ที่ 2.8 พันลบ. เติบโต 7%YoY จากยอดขายและอัตรากำไร EBIT ที่กว้างขึ้น และเติบโต 71% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ ม.ค. 2568 ประเมิน SSS เติบโตที่ 6%YoY ดีสุดในกลุ่ม หนุนให้กำไรปกติ 1Q68 คาดจะเติบโต YoY จากยอดขายและอัตรากำไรที่ดีขึ้น และทรงตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล