แนวโน้มตลาดหุ้น (6มิ.ย.) บล. อินฌนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ปรับลงทำจุดต่ำใหม่ สร้างสัญญาณลบต่อเนื่อง จากปัจจัยภายในกังวลสถานการณ์ด้านการเมือง รวมถึงทิศทาง fund flow ไหลออก ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1320 และ 1310 จุด ส่วนการฟื้นตัวยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1340-1345 จุด ต้องขึ้นทะลุผ่านก่อนถึงเกิดสัญญาณรีบาวด์
ประเด็นสำคัญ
• ECB มีมติปรับลด ดบ. 0.25% ส่งผลให้ ดบ. เงินฝากอยู่ที่ 3.75% ขณะที่ ดบ. เงินกู้อยู่ที่ 4.50% ส่วนดบ. รีไฟแนนซ์อยู่ที่ 4.25% โดยเป็นการปรับลดดบ. ครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ ก.ย. 2562
• ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8 พันราย สู่ระดับ 2.29 แสนราย สูงกว่าตลาดคาด
• คกก. BOJ ระบุญี่ปุ่นอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของ BOJ ในปีหน้า หากการบริโภคยังคงซบเซา พร้อมเน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้น ดบ. อีก
• IEA คาดการลงทุนในด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาดทั่วโลกจะพุ่งแตะ 2 ล้านล้านเหรียญในปีนี้ ขณะที่มูลค่ารวมการลงทุนพลังงานทั้งหมดคาดจะเกิน 3 ล้านล้านเหรียญเป็นครั้งแรกในปีนี้
• Saudi Aramco ปรับลดราคาขายน้ำมัน (OSP) มายังเอเชียในเดือน ก.ค. เป็นครั้งแรกที่ปรับลดลงตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา สะท้อนความต้องการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และอุปสงค์ที่ชะลอตัว
• Salesforce เตรียมเปิดศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ในกรุงลอนดอน 18 มิ.ย. แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของอังกฤษในฐานะศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีระดับโลก
• สนพ. เตรียมเสนอแผนพลังงานชาติ PDP 2024 ฉบับใหม่เข้า ครม. พิจารณาใน ก.ย.นี้ โดยคาดว่าค่าไฟเฉลี่ยทั้งแผนจะไม่เกิน 4 บ./หน่วย
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบ โดยในประเทศยังขาดปัจจัยหนุนใหม่และมีปัจจัยการเมืองกดดันบรรยากาศลงทุน ทำให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ดี ยังคาดหวังแรงหนุนดัชนีจากผลประกอบการของ บจ. ไทยที่จะเติบโตดีขึ้นตั้งแต่ 2Q67 และปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์นี้จะเป็นบวก อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิต พ.ค. ของจีนและสหรัฐคาดจะปรับตัวดีขึ้น หลังมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และการประชุมนโยบายการเงินของ ECB มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2562 ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
BDMS คาดกําไรปกติปี 2567 จะเติบโต 13% YoY หนุนโดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับเป้าของบริษัทที่ 10-12% และจากความสามารถในการกำหนดราคา หนุน EBITDA margin หลังใช้กลยุทธ์เน้นให้บริการโรคร้ายแรงเพิ่ม กําไรปกติ 2Q24 คาดเติบโต YoY อย่างต่อเนื่อง แม้จะชะลอลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
PTTEP ได้ประโยชน์ตรงจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว หลังราคาหุ้นปรับลงตามราคาน้ำมันหลังการประชุม OPEC+ นอกจากนั้นยังเป็นหุ้นที่ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่ผลการดำเนินงานและงบดุลยังแข็งแกร่ง คาดกำไร 2Q67 ดีขึ้นต่อเนื่องจากปริมาณการขายที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์