หุ้นไทยวันนี้ มีลุ้นฟื้นตัวต่อ ชี้สัญญาณเทคนิค แนวต้านถัดไปที่ 1530 และ 1543 จุด ตามลำดับ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1515 และ 1505 จุด เงินบาทที่ชะลอการอ่อนค่า ทำให้แรงกดดัน ด้านfund flow ไหลออกลดน้อยลง
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (25 ก.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน SET เริ่มแสดงสัญญาณเทคนิคที่เป็นบวก จากภาวะ oversold และเงินบาทที่ชะลอการอ่อนค่า ทำให้แรงกดดัน ด้าน fund flow ไหลออกลดน้อยลง ส่งผลให้คาด SET จะ ฟื้นตัวได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1530 และ 1543 จุด ตามลำดับ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1515 และ 1505 จุด ที่คาดว่ายังเป็นจุดรองรับได้
ประเด็นสำคัญ
• นายกฯ ระบุรัฐบาลมีแนวคิดขยายกรอบการใช้จ่ายเงินนอกงบฯ ตาม ม. 28 เป็น45% จาก 32% ของงบฯ ปี 67 เพื่อหนุนการดูแล ปชช. และกระตุ้นเศรษฐกิจระยะส้ันและจะกลับไปอัตราเดิมภายในปี 2570 ขณะที่คาดไทยจะได้รับการลงทุนอย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.7 แสนล้านบาท จากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก Tesla Google และ Microsoft
• คลังเตรียมเสนอมาตรการเสริมให้เกษตรกรที่ไม่เข้าโครงการพักชำระหนี้ได้รับสิทธิประโยชน์เพื่อจูงให้มีวินัยในการชำระหนี้ ควบคู่ไป กับการลดภาระจานวนคนที่จะเข้าสู่โครงการพักการชำระหนี้
• รัฐบาลเร่งไตรภาคีสรุป 2 แนวทางขึ้นค่าแรง 400 บาททั่ว ปท. หรือ นำร่องบางจังหวัดเตรียมเสนอเข้า ครม. ใน พ.ย. มีผลปีใหม่ ขณะที่ ส.อ.ท. ไม่เห็นด้วย ระบุต้องเป็นไปตามกลไกไตรภาคีแต่ละจังหวัด แนะนำรัฐบาลยุติแทรกแซง กังวลต่างชาติย้ายไปลงทุนเพื่อนบ้าน
• พาณิชย์ระบุยอดธุรกิจตั้งใหม่ช่วง 8M66 กว่า 6 หมื่นราย สูงสุด ในรอบ 10
ปี รับอานิสงส์ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว
• สศก. ระบุเอลนีโญกระทบผลผลิตข้าวลดทั่วโลก ส่งผลให้ราคาปรับ ขึ้น 20 - 27.7% เป็นโอกาสดีต่อการส่งออกข้าวไทย ด้านพาณิชย์ คาด ต.ค. นี้ ไข่ไก่ราคาลง รับเทศกาลกินเจ
• กรมทางหลวงสรุปผลขายซองร่วมลงทุนที่พักริมทาง M7 มีเอกชน PTT-BTS-GULF-BCP ซื้อเอกสารร่วมประมูล เปิดยื่นข้อเสนอ 22 พ.ย.2566 เริ่มก่อสร้างกลางปี 2567 เปิดบริการบางส่วนปี 2568
กลยุทธลงทุนวันนี้
แม้ตั้งแต่เข้าสู่เดือน ก.ย. SET อยู่ในทิศทางขาลง เนื่องจากตลาดกังวลการก่อหนี้และความไม่ชัดเจนในนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล อีกทั้งเงินบาทยังอ่อนค่าและFund Flow ไหลออก แต่าดจะเป็นจุดต่ำสุด และจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นใน ต.ค. จากคาดหวังมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น “โอกาสซื้อลงทุน”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มองตลาดก้าวสู่สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย. (สิ้นสุด 3Q66) ซึ่งคาดจะเป็นจุดต่ำสุด และจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นใน ต.ค. จึงมองเป็น “โอกาสซื้อลงทุน” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นเก็งกำไร โดยคาดราคาหุ้นจะรีบาวน์ได้หลังปรับลงแรงกว่า SET และ Valuation ไม่แพง (PER และ PBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก CPALL HMPRO CPN OSP BDMS MINT
2) หุ้นเก็งกำไรในธีมปิโตรดอลลาร์ โดยได้อานิสงส์จากกำลังซื้อของตลาดตะวันออกกลางดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น 10%QoQ ใน 3Q66 เลือก BH (ผู้ป่วยตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น) PTTEP (ราคาน้ำมันขึ้น) BCP (ราคาน้ำมันและกำไรสต็อกดีขึ้น)
3) หุ้นซื้อลงทุน โดยคาดผลการดำเนินงาน 3Q66 จะมีเติบโตดี และยังมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่องใน 4Q66 เลือก BCH HANA KCE AOT ERW
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ(MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
โฟกัสหุ้นวันนี้
-AOT 4QFY66-1QFY67 กำไรมีแนวโน้มเติบโตดีจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของภาคท่องเที่ยวไทย อีกทั้งล่าสุดรัฐบาลมีแผนออกมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวไทยซึ่งจะหนุนให้กำไรแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มากและยังตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว
-HANA 2H66 คาดผลการดำเนินงานจะปรับขึ้น HoH ตามการฟื้นตัวของผลิตภัณฑ์ IC หลังเป็น High season จากแนวโน้มออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของลูกค้า Smartphone รวมถึงลูกค้า RFID ที่มีการ implement ใช้แทน Barcode สำหรับธุรกิจค้าปลีก