บมจ. อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป ปลื้ม! พันธมิตรยักษ์ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ สนเข้าลงทุนวินด์ฟาร์มเวียดนามคึกคัก COD แล้ว 30 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 130 เมกะวัตต์ ช่วงปลายปีนี้ เตรียมนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 13 ก.ย.67 ขอขยายเวลาไถ่ถอน วงเงิน 570 ล้านบาท ออกไปอีกไม่เกิน 12 เดือน
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ให้ความสนใจเข้ามาเจรจาซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ในประเทศเวียดนาม ของบริษัทฯ ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 8,420 ล้านบาท โดยปัจจุบันขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว 30 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 3 โครงการ กำลังการผลิต 130 เมกะวัตต์ เตรียมทยอย COD ตั้งแต่ปลายปี 2567 เป็นต้นไป
“ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่หลายราย สนใจเข้าลงทุนในวินด์ฟาร์มเวียดนามของ EP เพราะเป็นโครงการที่สำเร็จแล้ว อยู่ในทำเลที่ดี ซึ่งรอเพียง COD เท่านั้น ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของทางฝั่งรัฐบาลเวียดนามที่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเราอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอที่ดีที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น และต้องยอมรับว่าโครงการไฟฟ้าวินด์ฟาร์มในเวียดนามมีความล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมออกไปมาก ทำให้บริษัทฯจำเป็นต้องมีการหาพันธมิตรเพื่อแบ่งเบาภาระด้านการลงทุน และการบริหารจัดการเงินทุนให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดรับที่ได้จากการขายไฟ“ นายยุทธกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดที่จะได้จากการขายไฟ และเงินลงทุนที่จะได้รับจากพันธมิตร ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 5 กันยายน 2567 มีมติอนุมัติขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ EP 249A ครั้งที่1/65 วงเงินรวม 570 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 14 กันยายน 2567 ออกไปไม่เกิน 12 เดือน และเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 5.25% เพิ่มอีก 0.50% รวมเป็น 5.75% ต่อปี พร้อมชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 13 กันยายน 2567
ประธานกรรมการ EP กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้ต้องขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไป ก็เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดรับที่จะเข้ามาในอนาคต เพราะตลาดหุ้นกู้ถูกกระทบหนักจากวิกฤติความเชื่อมั่น และสถาบันการเงินจำกัดการปล่อยสินเชื่อ ทำให้การระดมทุนผ่านตลาดเงินตลาดทุนในปัจจุบัน มีความยากลำบากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนงานที่ชัดเจนในการบริหารกระแสเงินสด เพื่อนำเงินมาไถ่ถอนหุ้นกู้ที่มีอยู่ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถชำระหนี้ได้ตามแผน เนื่องจากผลการดำเนินงานมีความแข็งแกร่ง เห็นได้จากในงวดครึ่งแรกปี 2567 มีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าจำนวน 188.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 160.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.53%