Market

InnovestX คาด SET ปัจจัยการเมืองกดดัน
15 ส.ค. 2567

แนวโน้มตลาดวันนี้ (15 ส.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ปรับตัวลง โดยมีปัจจัยการเมืองกดดันดัชนี หลังคำวินิจฉัยศาลฯ ให้นายกฯ ขาดคุณสมบัติ และต้องพ้นตำแหน่ง รวมถึงครม. สร้างสุญญากาศทางการเมือง โดยดัชนีมีแนวรับถัดไปที่ 1280 และ 1270 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1300 -1305 จุด

 

ประเด็นสำคัญ

• ศาลรธน. มีมติ 5 ต่อ 4 ให้นายเศรษฐา ทวีสินสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี  พร้อมสั่งให้ ครม. พ้นจากตำแหน่ง ประธานวิปรัฐบาลเผยมีความเป็นไปได้ที่จะโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ในวันที่ 16 ส.ค. นี้

 

• ตลท. เผยผลการดำเนินงานของกลุ่มอสังหาฯ 1H67 ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องจากกำลังซื้อลดลง หนี้สินครัวเรือนสูง และเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ กระทบต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้า รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่มีผลต่อการซื้อขายที่อยู่อาศัยอย่างมาก

 

• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับตลาดคาดจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล โดยสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์

 

• กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนี CPI ก.ค. ปรับขึ้น 2.9%YoY ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 64 และต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนดัชนี Core CPI ก.ค. ปรับขึ้น 3.2%YoY ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 64 และสอดคล้องกับตลาดคาด 

 

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เผยการทำข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาจะช่วยหลีกเลี่ยงการโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอล หลังเหตุลอบสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส

 

• ยูโรโซนเผย GDP 2Q24 (ประมาณการครั้งที่สอง) ขยายตัว 0.3%QoQ เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ส่วนประมาณการครั้งแรกของ GDP 2Q24 ญี่ปุ่นขยายตัว 0.8%QoQ สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 

 

• WSJ รายงานว่า Huawei เตรียมเปิดตัวชิป AI ที่พัฒนาขึ้นเอง Ascend 910C โดยคาดว่าจะสามารถแข่งขันกับชิป H100 ของ Nvidia ได้ คาดจะเริ่มส่งมอบได้เร็วที่สุดภายในเดือน ต.ค. นี้

 

กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET จะยังผันผวน ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศจากศาล รธน. ตัดสินคุณเศรษฐาขาดคุณสมบัติของนายกฯ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ระหว่างรอ ครม. ชุดใหม่เข้ามาบริหารงานประเทศ อย่างไรก็ดียังคงคาดหวังตลาดหุ้นไทยจะมีโอกาสได้รับกระแสเงินจาก Fund Flow ที่เริ่มไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”    

 

Top  Picks

KTB: 3Q67 คาดกำไรอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY และ 4Q67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น YoY หนุนให้ปี 2567 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น 11% จาก Credit Cost ที่ลดลง สินเชื่อที่กลับมาเติบโต NIM ที่ดีขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโต ขณะที่มีความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และมี Valuation ถูก PER 67F ที่ 6.0x (-2SD)

 

KCE: 2Q67 มีกำไรปกติ 531 ลบ. เพิ่มขึ้น 26.1%QoQ และ 65.8%YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ขณะที่คาดกำไรยังจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากความต้องการ PCB ที่ยังแข็งแกร่งและการคุมต้นทุนต่อเนื่อง ซึ่งคาดหนุนอัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นไปถึง 4Q67 ล่าสุดประกาศจ่ายปันผลงวด 1H67 ที่ 0.6 บาท (XD 26 ส.ค.) คิดเป็น Div. yield 1.5%  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com