ทิศทางหุ้นไทย มีสัญญาณฟื้นตัวจำกัด ขณะที่สหรัฐ ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากกลุ่มหุ้นเทคและหุ้นผลิตชิป ส่วนจีนโชว์ยอดส่งออกชิปโตแรงสวนทางไต้หวัน แนะเลือกหุ้นมีข่าวบวกลงทุน หลังผิดหวังหุ้นแบงก์งบไม่สวย หุ้น AOT จ่อพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิหารายได้ทุกรูปแบบ
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (23 ม.ค.) บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดดัชนีในภาพรวมสัญญาณเทคนิคยังเป็นลบ และตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน ทำให้ยังมองการฟื้นตัวถูกจำกัด โดยมีกรอบบนบริเวณแนวต้าน 1380 และ 1390 จุด ตามลำดับ ขณะที่ดัชนียังดูมี downside โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 และจุดต่ำเดิมบริเวณ 1354 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• DJIA ปิดเหนือระดับ 38,000 จุดเป็นครั้งแรก ขณะที่ S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นบริษัทผลิตชิปที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบ ก.พ. ปรับขึ้น 2.4%DoD หลังมีรายงานกองทัพยูเครนส่งโดรนโจมตีโรงงานน้ำมันของรัสเซียและสภาพอากาศที่หนาวจัดทั่วสหรัฐกำลังส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบ อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานในตลาดโลก
• จีนรายงานยอดนำเข้าเครื่องจักรที่ใช้ผลิตชิปปี 66 ปรับขึ้น 14%YoY สู่ระดับเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ มากเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ปี 58 หลังบริษัทต่างๆ เร่งลงทุนเพื่อรับมือต่อกรณีที่สหรัฐพยายามขัดขวางอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีน
• PBOC มีมติคง ดบ. LPR ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคง ดบ. LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.20% สวนทางที่ตลาดคาดว่าจะลด ดบ. ลง
• ไต้หวันรายงานยอดคำสั่งส่งออก ธ.ค. 66 ลดลง 16.0%YoY สู่ 4.381 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าคาดและแย่สุดนับตั้งแต่ ก.ค. 66 โดยคาดยอดคำสั่งส่งออก ม.ค. 67 จะหดตัวลง 15.8%-20.0%YoY
• Moody’s มีมุมมองเชิงลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ เนื่องจากการชะลอตัวของ ศก. จีน, ภาวะตึงตัวด้านการเงิน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
• AOT เตรียมพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิหารายได้ทุกรูปแบบ อีกทั้งปรับปรุงศักยภาพของสนามบิน เพิ่มประสิทธิภาพคาร์โก้ ผลักดันเป็น hub คาดใช้เวลาศึกษารูปแบบลงทุนภายในปีนี้
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดตลาดจะมีการปรับลดความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ ตลาดแรงงานและการผลิตไม่ได้แย่อย่างที่กังวล ซึ่งทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสพักฐานในช่วงสั้น ขณะที่ในประเทศเองยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”
Top Picks
BDMS มองราคาหุ้นจะปรับตัว outperform ต่อเนื่อง หนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง คาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 3.6 พันลบ. (+16%YoY, -7%QoQ) และคาดกำไรปกติโต 8%YoY ในปี 2567 อีกทั้ง Valuation อยู่ในระดับต่ำ PER ปี 2567 ที่ 29 เท่าต่ำกว่าระดับ -2SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต
PTTEP ช่วงสั้นคาดได้อานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น แม้คาดกำไรสุทธิ4Q66 ลดลง 10.4%QoQ จากรายการพิเศษ แต่กำไรปกติคาดปรับขึ้น 5%QoQ จากปริมาณการขายที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลงจากค่าซ่อมบำรุงลดลง แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกินราคา 149 บ.