“ขันเงิน”นำทีมผู้บริหาร“ซาเล็คต้า” ประกาศความพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แนวใหม่ เปิดรับพันธมิตรเชื่อมต่อเครือข่ายธุรกิจบันเทิงทั่วโลก ปักหมุดเป้าหมาย 3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปลายปีนี้เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์ใหม่อีก 1 เรื่อง คาดปีหน้ารายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10 % `
นายขันเงิน เนื้อนวล กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทซาเล็คต้า จำกัด(มหาชน) หรือ ZAA (ชื่อเดิมเอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) นำทีมผู้บริหารบริษัทประกอบด้วยนายจิรัชย์ วงษ์ตระหง่าน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายทรงพล เชาวนโยธิน ประธานเจ้าหน้าบริหารฝ่ายปฏิบัติการ แถลงแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท ภายหลังจากที่มีการรีแบรนดดิ้ง เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจของกลุ่ม ZAA โดยนายขันเงิน กล่าวว่า การขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัท มีเป้าหมายที่จะยกระดับสู่การเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แนวใหม่ครบวงจร ที่มีพันธมิตรด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสนำไปสู่การลงทุนและทำธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นเมกะเทรนด์โลก โดยวางเป้าหมายในอีก 3 ปีข้างหน้า ZAA จะต้องเป็นผู้นำด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เรามีธงที่ชัดเจนในการยกระดับธุรกิจของ ZAA ไปสู่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์แนวใหม่ แนวสร้างสรรค์ เพราะถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่กำลังมาแรง มีแนวโน้มเติบโตสูง ในปีหน้าจะเห็นภาพการรุกสู่ธุรกิจแนวใหม่ที่ครอบคลุมธุรกิจบันเทิงอย่างชัดเจน มีโปรเจกต์ใหม่ๆ ทั้งการจัดงาน Event ต่างๆ การจัดคอนเสิร์ต ที่มีศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครบทุกมิติ”นายขันเงินกล่าว
ส่วนธุรกิจเดิมของกลุ่ม ZAA คือธุรกิจผลิตภาพยนตร์จะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ โดยปลายนี้มีแผนที่จะเปิดตัวภาพยนต์ใหม่อีก 1 เรื่อง ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้บริษัทมีแนวคิดที่จะนำธุรกิจใหม่ ๆ เข้าไปเชื่อมโยงต่อยอดกับธุรกิจเดิม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเดิม
นายขันเงิน กล่าวอีกว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่ม ZAA ในครั้งนี้จะส่งผลให้ผลการดำเนินของบริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายว่าปีหน้ารายได้ของบริษัทจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10 %โดยปีหน้าสัดส่วนรายได้จะมาจาก 2 ส่วนหลัก คือ ธุรกิจภาพยนตร์ และธุรกิจบันเทิงรูปแบบใหญ่ เช่น การจัดอีเว้น คอนเสิร์ต ตลอดจนการให้การสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ โดยธุรกิจใหม่ดังกล่าว จะเริ่มในปี 2567เป็นต้นไป