Market

“ขันเงิน”ประกาศความพร้อมขับเคลื่อน “ซาเล็คต้า” ปักธงสู่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ครบวงจรแนวใหม่ ขึ้นแท่นผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
29 ก.ย. 2566

“ขันเงิน”นำทีมผู้บริหาร“ซาเล็คต้า” ประกาศความพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แนวใหม่ เปิดรับพันธมิตรเชื่อมต่อเครือข่ายธุรกิจบันเทิงทั่วโลก  ปักหมุดเป้าหมาย  3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปลายปีนี้เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์ใหม่อีก 1 เรื่อง  คาดปีหน้ารายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10 % `

 

 

 

นายขันเงิน  เนื้อนวล กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่  บริษัทซาเล็คต้า จำกัด(มหาชน) หรือ ZAA (ชื่อเดิมเอ็ม พิคเจอร์ส  เอ็นเตอร์เทนเม้นท์)     นำทีมผู้บริหารบริษัทประกอบด้วยนายจิรัชย์ วงษ์ตระหง่าน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายทรงพล เชาวนโยธิน ประธานเจ้าหน้าบริหารฝ่ายปฏิบัติการ    แถลงแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท  ภายหลังจากที่มีการรีแบรนดดิ้ง  เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจของกลุ่ม ZAA  โดยนายขันเงิน  กล่าวว่า  การขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัท มีเป้าหมายที่จะยกระดับสู่การเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แนวใหม่ครบวงจร ที่มีพันธมิตรด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ทั่วโลก  เพื่อเพิ่มโอกาสนำไปสู่การลงทุนและทำธุรกิจใหม่ๆ  ที่เป็นเมกะเทรนด์โลก  โดยวางเป้าหมายในอีก  3 ปีข้างหน้า  ZAA จะต้องเป็นผู้นำด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  

 

“เรามีธงที่ชัดเจนในการยกระดับธุรกิจของ ZAA ไปสู่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์แนวใหม่ แนวสร้างสรรค์ เพราะถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่กำลังมาแรง   มีแนวโน้มเติบโตสูง ในปีหน้าจะเห็นภาพการรุกสู่ธุรกิจแนวใหม่ที่ครอบคลุมธุรกิจบันเทิงอย่างชัดเจน  มีโปรเจกต์ใหม่ๆ  ทั้งการจัดงาน Event  ต่างๆ   การจัดคอนเสิร์ต ที่มีศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก  เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครบทุกมิติ”นายขันเงินกล่าว

 

ส่วนธุรกิจเดิมของกลุ่ม ZAA คือธุรกิจผลิตภาพยนตร์จะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ  โดยปลายนี้มีแผนที่จะเปิดตัวภาพยนต์ใหม่อีก 1 เรื่อง  ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี   นอกจากนี้บริษัทมีแนวคิดที่จะนำธุรกิจใหม่ ๆ เข้าไปเชื่อมโยงต่อยอดกับธุรกิจเดิม  เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเดิม  

 

นายขันเงิน กล่าวอีกว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่ม ZAA ในครั้งนี้จะส่งผลให้ผลการดำเนินของบริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายว่าปีหน้ารายได้ของบริษัทจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10 %โดยปีหน้าสัดส่วนรายได้จะมาจาก 2 ส่วนหลัก คือ ธุรกิจภาพยนตร์ และธุรกิจบันเทิงรูปแบบใหญ่ เช่น การจัดอีเว้น คอนเสิร์ต ตลอดจนการให้การสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ โดยธุรกิจใหม่ดังกล่าว จะเริ่มในปี 2567เป็นต้นไป

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com