หุ้นบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ฮออตสุดๆ นอกจากจะเนื้อหอม จนหุ้น IPO 370 ล้านหุ้น ไม่พอกับความต้องการของนักลงทุน ด้าน 7 โบรกเกอร์ ประเมินราคาเป้าหมาย 10.80-14.40 บาท เกิน 100%จากราคาจอง
หุ้นน้องใหม่ COCOCO หรือ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต จำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลางเดือนกันยายนนี้ ถ้าไม่ผิดไปจากการคาดการณ์ น่าจะซื้อขายวันแรก วันที่ 14 กันยายนนี้ เและน่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่อีกตัวมีโอกาสล้างภาพหุ้น IPO ต่ำจอง เหมือน SPS หุ้นน้ำมันหล่อลื่นที่เข้าไปก่อนหน้านี้ เพราะมุมมองของโบรกเกอร์หลายแห่ง ให้ราคาเป้าหมายไว้ค่อนข้างสูงจากราคาจองที่ 5.50 บาท ส่วนโบรกเกอร์ไหนให้ที่ไว้เท่าไหร่ไปติดตามกัน
เริ่มจากบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป ที่ให้ราคาพื้นฐานไว้สูงกว่าใครเพื่อนที่ 14.40 บาท โดยมองว่าการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อทุนขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวเป็นหลัก จะทำให้รายได้หลักในอนาคตเปลี่ยนจากธุรกิจอาาหารเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งจะสร้างรายได้และอ้ตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเดิม ขณะที่วัตถุดิบหลักที่ทำจากมะพร้าวมีคู่แข่งน้อยรายหากเทียบกับความต้องการของโลก และเป็นบริษัทผู้ส่งออกกระทิอันดับ 1 ของไทยในปีที่ผ่านมา
ทำให้คาดรายได้จากการขายในปี 2566 ไว้ที่ 5,015 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 49.1% และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.9% จากปีก่อน และในปี 2567 คาดว่าจะมีรายได้ขยับมาเป็น 8,415 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 67.8% จากปีก่อน และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิแตะ 1,076 ล้านบาท โตจากปีก่อน 79%
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ ประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 13.20 บาท โดยอิงค่าพี/อี เรโช ปี 2024 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยใกล้เคียงของคู่แข่งในประเทศ ที่ 24 เท่า จากการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่ง และเห็นได้ชัดของธุรกิจมะพร้าว ผ่านอัตกำไรที่ดีขึ้น จากกลยุทธ์การเติบโตของน้ำมะพร้าว ตามกระแสโลกที่หันมาสนใจดูแลสุขภาพ และการขยายกำลังการผลิตอย่างทันท่วงที วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมะพร้าว 8 เท่าเป็น 218,000 ตันต่อปี ภายในปี 2025 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของ COCOCO จากการเติบโตจากกะทิเป็นน้ำมะพร้าวจะทำให้มีการประเมินมูลค่าที่ดีขึ้น เนื่องจากขนาดตลาดที่ใหญ่ขึ้นและอัตรากำไรที่สูงขึ้นของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเทียบกับอุตสาหกรรมวัตถุดิบ
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคเฮียน มองว่า COCOCO มีจุดเด่นด้านภูมิศาสตร์แหล่งวัตถุดิบมะพร้าวที่เป็น 1 ใน 5 ประเทศผู้ส่งออกหลัก ถือว่ามีจุดแข็งสำคัญ ของ COCOCO บวกกับ การรุกตลาดน้ำมะพร้าวจีนในปัจจุบันที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ประกอบกับ การเข้าระดมทุน IPO จะช่วยเสริมความสามารถเติบโต คาดกำไรปี 2022-25 เติบโตสูง 38.9% ต่อปี CAGR ภายใต้สมมติฐานการขยายกeลังผลิตน้ำมะพร้าวเป็น 1.10/2.18/2.18 แสนตัน/ปี ในปี 2023-25 จาก 0.33 แสนตัน/ปี ในปี 2022 ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 12.50 บาท อิงค่า พี/อี เรโช ปี 2567 ที่ 26.4 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีก
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า ให้ราคาเป้าหมาย ปี 2567 ไว้ที่ 12.40 บาท โดยคาดการณ์กำไรปกติปี 2566 - 2568 ที่ 562 ล้านบาท, 754 ล้านบาท, 911 ล้านบาท คิดเป็น CAGR ต่อปีที่ 43.8% หนุนจากปริมาณขายน้ำมะพร้าว ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น จากการขยายตลาดไปจีนตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา กอปรกับกระแสการบริโภคน้ำมะพร้าวทั่วโลกเพิ่มขึ้น ชดเชยผลิตภัณฑ์กะทิที่อาจทรงตัวถึงย่อตัวเล็กน้อยจากเศรษฐกิจยุโรปและอเมริกาที่ชะลอตัว และธุรกิจใหม่ช่วงแรกยังขาดทุน สำหรับการประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 12.40 บาท อิงพี/อี ที่ 24 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มซึ่งทำธุรกิจใกล้เคียงกัน ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 23 เท่า จากศักยภาพการเติบโตหลังเข้าตลาดฯ
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2024 ของ COCOCO ที่ 17,052 ล้านบาท หรือเทียบเป็นราคา 11.60 บาท โดยอิงวิธีการประเมินมูลค่ากิจการแบบเป้าหมาย พี/อี ที่ค่าเฉลี่ยระยะยาว 5 ปี ของกลุ่มผู้ประกอบการเครื่องดื่มในไทย อยู่ที่ 24.7 เท่า และ EPS ปี 2024 ที่ 0.47 บาท/หุ้น พี/อี ที่ใช้ ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย พี/อี ของกลุ่มดังกล่าว บนราคาซื้อขายปัจจุบันที่ 27.2 เท่า อยู่ราว 9% และผู้ประกอบกำรเครื่องดื่มระดับโลกที่นำมาใช้เปรียบเทียบเฉลี่ยที่ 28.7 เท่า อยู่ 14%
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรหลักที่ 470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.2% จากปีก่อน หนุนโดยรายได้จากการขายและให้บริการเพิ่มขึ้น 30.2%จากปีก่อน จากการขยายผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวมากขึ้น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์พาย ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ COCOCO ไว้ที่ 11.50 บาท ด้วยวิธี P/E multiple ใช้กำไรต่อหุ้นปี 2024 ที่ 0.47 บาท กำหนดเป้าหมาย PE ปี 2024 ที่ 24.6 เท่า อิงกับค่าเฉลี่ยการซื้อขายของบริษัทที่มีลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกับบริษัทฯ โดยอิงกับประมาณการกำไรปี 2024 ตามคาดการณ์ของ Bloomberg consensus ซึ่งต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 5 ปีของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ที่ 26 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิต่อปีที่ 28% ของบริษัท ในปี2023-2025
และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แฮนด์ เฮ้าส์ ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 10.80 บาท โดยอิงค่า พี/อี เฉลี่ยหุ้นกลุ่มเครื่อมดื่มที่ 24 เท่า ทั้งนี้มองว่าผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวจะก้าวมาเป็นรายได้หลัก แทนผลิตภัณฑ์กะทิ และมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มที่เทรดในตลาดฯ ปัจจุบัน