บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway แนะนำจับตาผลการประชุม FED คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมหรือไม่ ให้กรอบดัชนีที่ 1,330-1,380 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุน 6 หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ได้แก่ CPALL-BJC-CRC-DOHOME-GLOBAL-HMPRO
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัว Sideway โดยมีแรงกดดันจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย GDP ในไตรมาส 1/2567 ขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีและต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.4% จึงแนะนำจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีประเด็นบวกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมยกระดับเกณฑ์การซื้อขายใหม่ โดยเฉพาะการใช้มาตรการพิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดราคาทำชอร์ตเซลด้วยราคาสูงกว่าราคาครั้งสุดท้าย เพื่อไม่ให้เกิดการดัมพ์ราคา (Uptick Rule) และการมีรมว.คลังที่ปรับใหม่ คาดว่าจะมาดูแลโครงการ Digital Wallet และปรับโครงสร้างภาษี จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,330-1,380 จุด
ส่วนประเด็นลบมาจากกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2567 มีมูลค่า 24,960.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (892,290 ล้านบาท) หดตัว 10.9%YoY มากกว่าที่ตลาดคาด -4% ถึง -5.9% จึงส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกไทยในไตรมาส 1/2567 หดตัว 0.2%YoY ทั้งนี้ การส่งออกที่หดตัวมากกว่าที่คาดไว้ส่งผลให้กระทรวงการคลังปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 เหลือ 2.4% ลดลงจากประมาณการเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.8%
ขณะที่ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ วันนี้ 30 เม.ย. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนเม.ย. อียู รายงาน GDP ไตรมาส 1/2567 และ อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. (ประมาณการเบื้องต้น) สหรัฐ รายงานราคาบ้านเดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. วันที่ 30 เม.ย. – 1 พ.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) รู้ผลเช้ามืดวันที่ 2 พ.ค. วันที่ 1 พ.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนเม.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย. ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค. วันที่ 2 พ.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย ดุลการค้าเดือนมี.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค. และ วันที่ 3 พ.ค. อียูรายงานอัตราว่างงานเดือนมี.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย. และดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไว้ โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวได้แก่ หุ้น CPALL, BJC, CRC, DOHOME, GLOBAL และ HMPRO
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่าในส่วนสัปดาห์นี้ราคาทองคำถูกกดดันจากสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่คลี่คลาย และความกังวลว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก หลัง GDP สหรัฐ ในไตรมาส 1/2567 ต่ำกว่าคาด จึงแนะนำให้ติดตาม ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการสหรัฐ และการประชุมเฟดซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในทองคำโดยรอให้ราคาทองคำยืนเหนือแนวรับที่ระดับ 2,300$/oz ก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง