TEAMG โตฉลุย ผลงานไตรมาส 3/2566 กำไร 30.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วกว่า 20% เผยรายได้รวม 446.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 16.7% ระบุรายได้จากงานธุรกิจเกี่ยวเนื่องมาแรง  มั่นใจไตรมาส 4 คว้างานประมูลเพิ่มต่อเนื่อง  ดัน  Backlog เข้าเป้า 6,000 ล้านบาท

ดร.อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือTEAMG เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 3/2566 (เดือนกรกฏาคม-กันยายน 2566) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 446.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวมของไตรมาสที่ 2/2566 ที่มีจำนวน 382.94 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 16.7% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2565 ที่มีจำนวน 427.82 ล้านบาทคิดเป็นการเติบโต 4.5% ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิประจำงวดไตรมาสที่ 3/2566 จำนวน30.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 25.26 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3/2566 บริษัทรับรู้ผลขาดทุนจาก
ตราสารทุนที่ลงทุนและถือไว้เพื่อค้าตั้งแต่ช่วงต้นปี  2566 จำนวน 13.05 ล้านบาท ซึ่งหากไม่นับรวมผลขาดทุนข้างต้น จะทำให้กำไรสุทธิของไตรมาสนี้มีจำนวน 40.94 ล้านบาท

ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 บริษัทรับรู้รายได้ของงานโครงการภาคเอกชนเพิ่มขึ้น จากความก้าวหน้าในการดำเนินงานโครงการประเภทงานออกแบบ งานจัดทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อม และงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง รวมถึง รายได้จากงานธุรกิจเกี่ยวเนื่อง สาเหตุจากที่บริษัทได้ดำเนินงานโครงการก่อสร้าง (Engineering Procurement Contract; EPC) ที่รับใหม่ในปีเพิ่มเติมขึ้นมาจากงานประเภทเดิมของภาคส่วนธุรกิจนี้ได้แก่ โครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ระยะที่ 1 และโครงการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่า ระยะที่ 2

สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารในช่วงไตรมาส 3/2566 ของบริษัทลดลง 6.3% และ12.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสที่ผ่านมาตามลำดับ จึงทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับระดับลงมาอยู่ที่ร้อยละ 17.8 ของรายได้รวม แสดงถึงประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัท

“ในไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทคาดว่าจะสามารถเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากโครงการภาครัฐ และเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ งานอาคาร และโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมดันงานในมือ (Backlog) ให้ได้ตามเป้า 6,000 ล้านบาท อีกทั้งมุ่งเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจเดิมและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆในการเป็นผู้ลงทุนและพัฒนาโครงการต่อไป” ดร.อภิชาติ กล่าว