ทิศทางตลาดหุ้นไทยท้ายสัปดาห์ มีสัญญาณอ่อนแอ เจอความไม่แน่นอนดอกเบี้ยของเฟด หลังเงินเฟ้อออกมาสูงเกินคาด ตามด้วยสหรัฐ-อังกฤษทิ้งระเบิดทะเลแกงตอบโต้กับอิหร่าน บ.เทคโลกแห่ลดคนด้วย ส่วนไทย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่ง
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (12 ม.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET สัญญาณเทคนิคที่ยังเป็นลบ ตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน และความไม่แน่นอนเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้คาดว่าดัชนียังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1400 และ 1390 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1415 และ 1420 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• สหรัฐรายงานเงินเฟ้อทั่วไป ธ.ค. 66 +3.4%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐาน ธ.ค. +3.9%YoY สูงกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ 2.02 แสนราย ต่ำสุดรอบ 3 เดือน ทำให้ตลาดคาดอาจเร็วเกินไปที่ Fed จะเริ่มปรับลด ดบ. ลง
• Fed ฟิลาเดลเฟียระบุอัตราการผิดนัดชำระหนี้ของบัตรเครดิตเกินระดับก่อนเกิดCovid-19 ขณะที่สัดส่วนผู้กู้ยืมที่ชำระเงินขั้นต่ำเพียงอย่างเดียว เพิ่มขึ้นสูงกว่า 10% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562
• เช้านี้สหรัฐและอังกฤษ ดําเนินการทิ้งระเบิดทางอากาศต่อที่ตั้งทางทหารของ กลุ่มฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน เป็นการตอบโต้การโจมตีเรือที่เดินทางผ่านทะเลแดงที่ยังดําเนินต่อไป
• บ. เทคโนโลยีรายใหญ่ของโลกหลายแห่งประกาศปรับลด พนง. ต่อเนื่องหลังถูก AI เข้ามาแทนที่ ล่าสุดเป็น Google และ Amazon ต่อจาก Huawei ฝั่งสหรัฐ-แคนาดา รวมทั้ง Lazada เครือ Alibaba ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
• ก. คลังเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JV AMC โดย ธ. ออมสินจะถือหุ้นในส่วน 50% คาดเริ่มภายใน 1Q67 ตั้งเป้าแก้หนี้เสีย 3 ล้านบัญชี ยอดหนี้กว่า 2 แสนลบ. เร่งลดเงินงวด-ตัดเงินต้น
• ม.หอการค้าไทยระบุดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค. 66 ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สูงสุดในรอบ 46 เดือนนับตั้งแต่ มี.ค. 63 จากนโยบายลดค่าครองชีพลดค่าไฟฟ้าค่าน้ำมัน และมาตรการกระตุ้น ศก. ของรัฐบาล รวมทั้งการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ แต่ยังอยู่ภายใต้Upside จำกัด เนื่องจากปัจจัยภายนอกยังมีความผันผวน และอยู่ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
โฟกัสหุ้นวันนี้
BCP ช่วงสั้นได้ sentiment หนุนจากราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังสถานการณ์ตะวันออกกลางตึงเครียดมากขึ้น ขณะที่แม้คาดปี 2566 กำไรปกติจะอ่อนตัวลง45%YoY จาก GRM สูงผิดปกติปี 2565 แต่จะกลับมาโต 52%YoY ในปี 2567 ทั้งยังจ่ายปันผลดีและสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield ราวปีละ 8%
GPSC ช่วงสั้นได้ sentiment หนุนจาก Bond Yield ลดลง และราคาก๊าซที่อยู่ในระดับต่ำจากฤดูหนาวที่อบอุ่นกว่าปกติ ขณะที่อยู่ระหว่างปรับสัญญาขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นอ้างอิงราคาก๊าซฯ เพิ่มขึ้น ช่วยลดความผันผวนของผลประกอบการจากค่า Ft ที่ไม่สอดคล้องกับต้นทุน