APCO กางแผนครึ่งปีหลัง แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง พร้อมอัดงบการตลาดดันผลิตภัณฑ์ CANCINO ป้องกันเนื้อร้ายแบบแคปซูล และเตรียมคลอดผลิตภัณฑ์ใหม่ MylifeT สูตรใหม่ของนวัตกรรมวัฒนชีวา ปั้นเป็น 2 Mass Products เจาะตลาดออนไลน์ในประเทศ ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์ ByeByeHIV ในประเทศไนจีเรีย ส่งสัญญาณบวกรอรับออเดอร์ภายในปีนี้ และตกลงจับมือเพิ่มโอกาสทางธุรกิจกับบริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ของจีน
ศ. ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง ว่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเน้นการตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น มีการขยายช่องทางจัดจำหน่ายในประเทศผ่านผู้แทนจำหน่ายในรูปแบบ Dropship วางเป้าจะเปิดรับตัวแทนรายใหญ่จำนวน 100 รายที่มีศักยภาพ และมากประสบการณ์ด้านการขายออนไลน์เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลงทุนงบโฆษณาสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัททำการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “CANCINO” ป้องกันเนื้อร้ายแบบแคปซูล ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และยังอยู่ระหว่างการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ”MylifeT” ซึ่งเป็นนวัตกรรมวัฒนชีวาที่ปรับสูตรให้เข้ากับผู้บริโภคทุกวัย อายุตั้งแต่ 30 ปี ขึ้นไปจนถึงผู้สูงอายุก็สามารถรับประทานเสริมสร้างความยาวเทโลเมียร์ให้สมบูรณ์ไม่เสื่อมก่อนวัย โดยวางแผนการตลาดเพื่อผลักดัน 2 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้เป็น Mass product ภายในปีนี้
ส่วนตลาดในประเทศไนจีเรียกับการส่งออกผลิตภัณฑ์ ByeByeHIV ขณะนี้เอกสารเรื่องนำเข้า และขอ อ.ย.ในประเทศไนจีเรียเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างวางแผนการประชาสัมพันธ์สินค้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วแอฟริกา ปัจจุบันมีการติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ มั่นใจการสั่งซื้อล็อตแรก เริ่มภายในไตรมาส 4/67 และครบภายใต้จำนวน 1 ล้านขวด ในกรอบระยะเวลา 1 ปี ตามสัญญาที่เซ็นไว้
นอกจากนี้ บริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ของประเทศจีนที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลไทยจัดการแข่งขัน Texas Hold’em Game ในประเทศไทย ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อนวัยป้องกันและกำจัดเนื้อร้ายของบริษัทเป็นของกำนัลให้กับผู้ร่วมการแข่งขันทุกคน และให้ผู้ติดตามได้มีโอกาสซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทนำกลับไปใช้ในประเทศจีนด้วย โดยในแต่ละเดือน จะมีชาวจีนเข้าร่วมการแข่งขัน 2,000 ราย รวมกับผู้ติดตามแล้วไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,500 ราย หรือ 30,000 คนต่อปี คาดว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มจากช่องทางนี้ปีละ 300 ล้านบาท
จากแผนการดำเนินงานครึ่งปี 2567 นี้ เชื่อมั่นว่าผลประกอบการในไตรมาส 3 และ 4 จะเติบโตขึ้น และมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 53.61ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 14.66 ล้านบาท งวด 6 เดือนแรก 2567 มีรายได้รวม 108.26 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท