แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (14 ก.พ.) บล. อินโนเวสท์เอกซ์ คาด SET ปรับตัวลง หลังเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าคาด สร้างความกังวลว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยระดับสูงไว้นานกว่าที่ตลาดคาด ด้านผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้นแรง ดอลลาร์แข็งแรง บาทอ่อน เป็นลบต่อทิศทาง fund flow ทั้งนี้ SET มีแนวรับอยู่ที่ 1380 และ 1370 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1394-1400 จุด
ประเด็นสำคัญ
• สหรัฐรายงานดัชนี CPI และ Core CPI ม.ค. ปรับขึ้น 3.1%YoY และ 3.9%YoY ตามลำดับ สูงกว่าคาด ทำให้ตลาดเลื่อนคาดการณ์ที่ Fed จะลด ดบ. ไปเป็น มิ.ย. จากเดิมที่คาดว่าจะลด ดบ. ใน พ.ค.
• วันนี้ จนท. จากสหรัฐ อียิปต์ อิสราเอล และกาตาร์ จะจัดการประชุมที่กรุงไคโรเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา
• OPEC คาดอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นอีก 2.25 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 และ 1.85 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 พร้อมคาด ศก. โลกจะขยายตัว 2.7% ในปี 2567 และ2.9% ในปี 2568 จากเดิมคาดที่ 2.6% และ 2.8% ตามลำดับ หนุนจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
• วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศก้อนใหญ่ 9.534 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อสนับสนุนยูเครน อิสราเอล และไต้หวัน โดยผ่านไปด้วยคะแนน 70 ต่อ 29 เสียง
• ก. ท่องเที่ยวฯ ระบุ นทท. ต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่าง 5-11 ก.พ. 67 มีจำนวน 872,235 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 102,227 คน หรือ 13.28%
• ม. หอการค้าไทยระบุผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ 14 ก.พ. 67 คาดจะมีเงินสะพัดกว่า 2.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 5.4%YoY สูงสุดในรอบ 5 ปี ส่งผลให้กิจกรรม ก.พ. 67 ทั้งตรุษจีน วาเลนไทน์ และวันมาฆบูชา น่าจะมีเงินสะพัดมากกว่า 8-9 หมื่นลบ. เข้าระบบ ศก. ไทย
• ตลท. เตรียมหารือ ก.ล.ต. นำ 4 มาตรการระยะสั้น-ยาวควบคุมดูแลธุรกรรมขายชอร์ต-โปรแกรมเทรดดิ้ง
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่ และอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทยที่จะทยอยออกมา นอกจากนั้นความเสี่ยงเงินเฟ้อของสหรัฐอาจลดลงน้อยกว่าคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”
Top Picks
BEM หุ้นปลอดภัยยามตลาดผันผวน และ 4Q66 คาดกำไรสุทธิ 796 ลบ. โต32%YoY จากปริมาณรถใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้น คาดปี2566 กำไร 3.4 พันลบ. โต 40%YoY และคาดโตอีก 27%YoY ในปี 2567 ตามปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT เพิ่มต่อเนื่อง
PTT มองเป็นหุ้น defensive ที่กระจายความเสี่ยงธุรกิจลงตัว ขยายไปสู่ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะยาวคาดกำไรจากการดำเนินงาน 1Q67 ดีขึ้น QoQ จากกำไรในธุรกิจ P&R ดีขึ้น พร้อมคาดให้ Div. Yield สูงถึงปีละ 6%