"เดนทัล คอร์ปอเรชั่น" เปิดแล้ว 5 คลินิกทันตกรรมรีแบรนด์ใหม่ "เดนทัล แพลนเน็ต คลินิกทันตกรรม" เป้าหมายขยายฐานดันรายได้ลูกค้าคนไทย ด้านลูกค้าต่างชาติยังเป็นกลุ่มหลักเข้าใช้บริการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ยุทธศาสตร์สร้าง New S-Curve ลุย ยาสีฟัน Elite Smile เต็มสูบ พร้อมโตยั่งยืน ส่วนผลงานไตรมาส 3/2567 โกยรายได้ 245.4 ล้านบาท
นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ผู้ให้บริการด้านทันตกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ในการขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการเปิดแบรนด์ใหม่ "เดนทัล แพลนเน็ต คลินิกทันตกรรม” หรือ “Dental Planet Clinic" ซึ่งรีแบรนด์มาจาก คลินิกทันตกรรม สไมล์ซิกเนเจอร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 5 สาขา
โดยในปีนี้ได้เปิดให้บริการทางทันตกรรม แบรนด์ "เดนทัล แพลนเน็ต คลินิกทันตกรรม” จำนวน 5 สาขา ประกอบด้วย สาขารังสิต ,อ่อนนุช,พหลโยธิน ,รามอินทรา และเซ็นทรัล เวสเกต และในปี 2568 ตั้งเป้าเปิดเพิ่มอีก 4 สาขา โดยตั้งเป้ารายได้จากลูกค้าคนไทยในปีหน้าเติบโตเพิ่มเป็น 350 ล้านบาท เพราะเห็นถึงศักยภาพของลูกค้าชาวไทยที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกสูง
อย่างไรก็ตามในส่วนของ คลินิกทันตกรรม สไมล์ ซิกเนเจอร์ กลุ่มบริษัทฯยังมีแผนเปิดสาขาเพิ่ม ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับลูกค้าชาวต่างชาติที่มั่นใจในการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าชาวต่างชาติเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของกลุ่มบริษัทฯ
“ตอนนี้เราได้เปิดแบรนด์ใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว 5 สาขา Rebranding มาจาก คลินิกทันตกรรม สไมล์ ซิกเนเจอร์ มาเป็นแบรนด์ เดนทัล แพลนเน็ต คลินิกทันตกรรม ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยดีมาก ด้วยค่าบริการในการรักษาจับต้องได้ ลดลงประมาณ 10-20% ให้บริการครบวงจร ทันสมัย เข้าถึงง่าย เหมาะสมกับทุกวัย ราคาตอบโจทย์กับภาวะเศรษฐกิจ ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ต้องขยายฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายพรศักดิ์ กล่าว
นายพรศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มบริษัทฯ ยังเดินหน้าตั้งเป้าหมายสร้าง New S-Curve จากผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน Elite Smile ที่ผสานนวัตกรรมโพสไบโอติกส์ (Postbiotics) เพื่อฟันที่แข็งแรงและสุขภาพภายในช่องปากที่ดียิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้พัฒนาสูตรสำหรับคนจัดฟัน ซึ่งได้ทำการตลาดเจาะให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และได้รับการตอบรับอย่างดี ส่งผลให้มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง มั่นใจจะสามารถสร้างรายได้ใหม่อย่างยั่งยืนให้กับกลุ่มบริษัทฯในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 245.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ของกลุ่มบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นมาจากงานด้านบริการทางทันตกรรม จำนวน 162.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลักจำนวน 101.1 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากบริษัทย่อย ธุรกิจจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทางทันตกรรม จำนวน 82.6 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 18.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% และรายได้จากโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) จำนวน 40.9 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากลูกค้าต่างชาติสูงถึง 71%