Market

InnovestX คาด SET มี Upside จํากัด สะท้อนลดดอกเบี้ยแล้ว
22 ส.ค. 2567

แนวโน้มตลาดวันนี้ (22 ส.ค.) บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน รายงานประชุมเฟด ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในก.ย. ก่อนการประชุม Jackson Hole วันศุกร์นี้ ซึ่งตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% จำนวน 3 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปี ทำให้หากเป็นไปตามนี้ มองดัชนีขึ้นสะท้อนแล้ว ดังนั้นให้ระวังแรงขายทำกำไร และคาดดัชนีมี Upside จำกัดที่แนวต้าน 1345-1350 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1325-1330 จุด

 

ประเด็นสำคัญ

• กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียงคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% เหตุมองเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวตามคาดและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจไทย จากแรงส่งภาคท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศ แนะจับตาคุณภาพหนี้เอสเอ็มอีและครัวเรือนด้อยลง หวั่นลามกระทบเศรษฐกิจทรุด

 

• รมช.คลัง เผยถึงกระแสข่าวการปรับเงื่อนไขโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการแจกเงินสดให้กลุ่มเปราะบางก่อนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่ามีหลายแนวคิด มีโอกาสเปลี่ยนเป็นทุกอย่าง คาดความชัดเจนจะออกมาเร็ว ๆ นี้ เพราะ ครม. ใหม่จะแถลงนโยบายในช่วงต้น ก.ย.

 

• ธปท.เผยเงินบาทยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินในตลาดโลกและในภูมิภาค แม้จะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีแล้วแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี สาเหตุการแข็งค่าของเงินบาทมาจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์เป็นสำคัญ

 

• สหรัฐปรับลดตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรช่วง เม.ย. 66 - มี.ค. 67 ลงเกือบ 30% หรือปรับลดลง 818,000 ตำแหน่ง จากรายงานก่อนหน้านี้ที่ 2.9 ล้านตำแหน่ง ซึ่งปรับลดมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก ทำให้ตลาดเริ่มกังวล ศก. อาจเผชิญภาวะฮาร์ดแลนดิง

 

• เฟดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30-31 ก.ค. โดยระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่าหากข้อมูลที่เฟดได้รับมานั้นยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป (17-18 ก.ย.)

 

• REIC เผยดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกทม.-ปริมณฑล ใน 2Q67 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเพียงเล็กน้อยสู่ 39.6 สะท้อนความต้องการในระดับต่ำและมาตรการกระตุ้นไม่ช่วยให้ฟื้นตัวขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน  ช่วงสั้นมอง SET จะยังผันผวน ระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อทราบถึงนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการบริหารประเทศ ขณะที่ตัวเลข PMI ส.ค. ของอียูและสหรัฐที่จะประกาศออกมาคาดยังอ่อนแอซึ่งจะส่งผลให้ตลาดมองถึงการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดสอดคล้องกับรายงานการประชุมเฟด ส่วนการประชุม กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”  

 

Top Picks

GPSC มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจาก Bond Yield และราคาก๊าซที่ปรับตัวลง ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 4.58 พันลบ. เติบโต 33.8%YoY และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 16.3%YoY ในปี 2568 ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังมีกำลังการผลิตติดตั้งที่สูงขึ้นในอินเดียและไต้หวัน

 

AAV มองน่าจะได้ประโยชน์ในระยะสั้นจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลงทำให้คาด  3Q67 คาดกำไรปกติจะดีขึ้น YoY และ QoQ ขณะที่ปี 2567 คาดจะพลิกมีกำไรปกติที่ 3.0 พันลบ. จากขาดทุนปกติ 206 ลบ. ในปี 2566 และจากนั้นจะกลับสู่ภาวะปกติ โดยจะเติบโต 7%YoY ในปี 2568 มาอยู่ที่ 3.3 พันลบ.

 

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com